วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558

การสกรีน ราคางานสกรีนประเภทของแก้วเซรามิค

 รูปแบบการสกรีน ราคางานสกรีนประเภทของแก้วเซรามิก

 

http://upload.siamza.com/file_upload/modify/110815/2243163.jpg

 

ล่าสุดการตกแต่งผลิตภัณฑ์เซรามิกมีเทคนิคการตกแต่งได้หลายวิถีทาง การใช้รูปลอกเซรามิกสนั้นเป็นกรรมวิธีหนึ่งที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมเซรามิค อันเนื่องมาจากความดูดีและว่องไวในการผลิต ซึ่งรูปลอกเซรามิกสนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ สติกเกอร์เซรามิคชนิดใต้เคลือบ สติกเกอร์เซรามิกสชนิดในเคลือบ และdecalเซรามิกชนิดบนเคลือบ ซึ่งแต่ละประเภทล้วนมีความสวยงาม ประโยชน์ใช้สอย รวมทั้งกระบวนการเกิดที่ต่างกันไป
บทความนี้จะกล่าวเฉพาะสติกเกอร์เซรามิกชนิดบนเคลือบ โดยเนื้อหาจะประกอบด้วยความรู้ทั่วไป เครื่องไม้เครื่องมือ และขั้นตอนการผลิต สำหรับเนื้อหานั้น ได้เรียบเรียงและอธิบาย โดยเน้นหลักการพื้นฐานของ Silk Screen Printing for Ceramic เป็นเนื้อหา ซึ่งจะใช้ภาพประกอบเพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจง่าย



วัตถุดิบที่ใช้ใรอุตสาหกรรมเซรามิกส์บางอย่างได้มาจากสินแร่ตามธรรมชาติ เช่น ดินต่าง ๆ (clays) หินฟันม้า (feldspar) หินควอตรซ์ (quartz) และทรายทะเล เป็นต้น นอกจากนี้ วัตถุดิบบางอย่างได้มาจากการสะกัดจากสินแร่ตามธรรมชาติ และนำมาทำให้บริสุทธิ์ผุดผ่องด้วยขบวนการทางเคมี เช่น อะลูมินา (alumina) ซึ่งได้จาก แร่บ๊อกไซท์ (bauxite) ที่ได้จากการสังเคราะห์ เช่น แบเรียมทิตาเนต นอกจากนี้ก็มีพวก เฟอร์ไรท์ (ferrites) และอินทรียวัตถุบางชนิดที่ให้เป็นตัวช่วยในการขึ้นรูป ผลิตภัณฑ์เซรามิกส์สมัยใหม่ต้องการวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตมีเปอร์เซ็นต์ ความบริสุทธิ์สูง เพราะสิ่งสกปรกเพียงเล็กน้อยซึ่งอาจจะน้อยกว่า 1% ก็อาจมีอิทธิพลต่อโครงสร้างซึ่งเชื่อมโยงไปถึงคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ด้วย การผลิตเซรามิกส์กึ่งตัวนำ (Semiconducting ceramics) สิ่งสกปรกจะต้องมีน้อยกว่า 1 ใน 10 – 8 กล่าวโดยทั่วไปสิ่งสกปรกไม่เป็นที่ปรารถนาในทุกขั้นตอนของการผลิต             การควบคุมขนาดและรูปร่างของวัตถุดิบ ก็มีความสำคัญไม่น้อยกว่า การควบคุมความบริสุทธิ์ของวัตถุดิบ เพราะมันจะมีผลต่อการขึ้นรูป การเกิดกิริยาสะท้อนระหว่างกันของวัตถุดิบต่างๆ ในขณะที่เผาหรือระหว่างการทำการสังเคราะห์สารต่างๆ

 

แก้วเซรามิค Credit : wholesale4th.plazacool.com

 ประเภทของ เซรามิกส์


เราสามารถจำแนกผลิตภัณฑ์เซรามิกส์ตามคุณภาพเนื้อของสินค้า ได้ดังนี้
1. พอร์ซเลน (Porcelain)เป็นเซรามิกที่มีเนื้อสีขาว เคลือบผิวเป็นมัน โปร่งแสงมีความเข้มเเข็งเหมือนแก้วไม่ซับน้ำ เคาะมีเสียงดังกังวานส่วนประกอบของเนื้อดินที่ใช้คือ ดินขาว ดินเหนียว หรือบอลเคลย์ หินไชน่าสโตน แร่ฟันม้าและแร่ควอรตซ์ ผลิตผลพอร์ซเลนใช้ในงาน ได้นานัปการทั้งในชีวิตประจำวันและงานอื่นๆ
ดินพอร์ชเลนมี 3 ต้นฉบับ แบบนี้
1.1 ดินพอร์ซเลนทั่วถึง Common Porcelain Body ใช้สำหรับงานหล่อ ที่มีอัตราการหล่อแบบที่ดี และคลอกแบบรีดักชั่น แต่ไม่โปร่งแสง สัมพันธ์กันสำหรับของซื้อของขายที่นำมาเขียนลายเบญจรงค์ หรือลายคราม

1.2 ดินอลูมิน่าพอร์ซเลน Alumina Porcelain Body ดินอลูมิน่าพอร์ซเลนเป็นดินที่ใช้กับงานเฉพาะที่ต้องการความคงทนถาวรแข็งแรงเช่นลูกถ้วยไฟฟ้า, ลูกบดและอิฐกรุ หรือสเปเซอร์ที่ต้องใช้แขวนสายไฟที่หนักเป็นตันได้โดยไม่เกิดความเสียหาย ดินในกลุ่มนี้จะมีสมบัติแปลกแยกกันไป

1.3 ดินพอร์ซเลนเนื้อขาว Soft Porcelain Body ดินพอร์ซเลนเนื้อขาวจะเบี่ยงเบนกันในเรื่องของสีหลังเผา, ความโปร่งแสง, ความเหนียวของดินเพื่อให้เหมาะสมกับการเลือกใช้งาน มักใช้ทำ โคมไฟประดับ งานปั้น เช่นตุ๊กตาแต่งแต้มตกแต่ง จานชาม


2. โบนไชน่า (Bone China)เป็นเครื่องปั้นดินเผาชั้นดีที่สุดมีสนนราคามีราคาสุดมีความขาวและเคลือบเป็นมันวาวมาก เนื้อละเอียด บางเบา และใสมากมีความแข็งแกร่งดีมาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ได้แก่ ถ้วย ชาม เครื่องประดับเป็นต้น โดยทั่วไปโบนไชนามีส่วนผสมหลักคือ เถ้ากระดูกประมาณร้อยละ 50 โดยน้ำหนัก และมีดินขาวเคโอลิน (kaolin) กับไชนาสโตน (china stone) อีกประมาณร้อยละ 25 (ในสหรัฐอเมริกาผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ชื่อโบนไชนาได้ต้องมีเถ้ากระดูกเป็นองค์ประกอบอย่างน้อยร้อยละ 25) ซึ่งปริมาณเถ้ากระดูกเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้โบนไชนามีเนื้อละเอียดสีขาว มีลักษณะโปร่งแสง และมีความแข็งมาก เถ้ากระดูกมีองค์ประกอบหลักคือ แคลเซียมฟอสเฟต (calcium phosphate, Ca3(PO4)2) ได้จากการนำกระดูกสัตว์ต่างๆ เช่น กระดูกวัว ควาย ม้า มากำจัดเศษเนื้อ เอ็นที่ติดอยู่กับกระดูกออก และนำไปเผาที่อุณหภูมิสูงประมาณ 1,000 - 1,100 องศาเซลเซียส เมื่อเถ้ากระดูกเย็นตัวลงจึงนำมาบดให้เป็น

เนื้อโบนไชน่ามักจะโปร่งแสง

3. เอิร์ธเธินแวร์ (Earthenware)เป็นผลิตภัณฑ์เซรามิกส์เคลือบผิวทึบแสง มีความพรุนสามารถดูดซึมน้ำได้เนื้อละเอียดสีไม่ขาวมาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ ได้แก่ หม้อดินเผา คนโท กระถางต้นไม้กระเบื้องมุงหลังคา
3.1 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟสูง Earthenware Body เป็นดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟสูงเนื้อหยาบที่ขึ้นรูปงานปั้นได้ดี ทำผลิตภัณฑ์ประเภทกระถางและกระเบื้องลอน เผาที่อุณหภูมิ 1200-1230 ํC ออกซิเดชั่น
3.2 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟต่ำหรือดินโดโลไมท์ Dolomite Earthenware Body เป็นดินโดโลไมท์ที่มีสีขาว น้ำหนักเบา นิยมทำของประดับตกแต่งหรือชุดห้องน้ำมากกว่า ทำผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร
3.3 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์เนื้อแดงหรือดินเทอราคอตต้า Terra Cotta Body ดินนี้ขึ้นรูปงานปั้นได้ดี และเผาได้ตั้งแต่ 1000-1230 C สีหลังเผาจะเป็นสีส้ม และเข้มตามอุณหภูมิที่เผาสูงขึ้น นิยมทำชุดอาหารและของตกแต่งบ้าน
4. สโตนแวร์ (Stoneware) เป็นกลุ่มดินผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายในการเลือกใช้ ทั้งดินงานปั้น, งานหล่อ, งานอัดปั๊ม เหมาะกับผลิตภัณฑ์สำหรับปรุงอาหาร Cookware ลักษณะเด่นของผลิตภัณฑ์สโตนแวร์มักจะชิ้นหนาและหนัก เน้นความแข็งแรงทนทาน
4.1 ดินสโตนแวร์เนื้อขาว White Stoneware Body เป็นดินสโตนแวร์เนื้อขาว เน้นที่จะใช้งานเคลือบใสตกแต่งด้วยสีใต้เคลือบ SAA ใช้ทั้งงานหล่อ, งานปั้นและงานอัด เป็นดินสำหรับการขึ้นรูปแบบ Isostatic press เหมาtสำหรับผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร

4.2 ดินสโตนแวร์ธรรมดา Common Stoneware Body เนื่องจากเป็นดินที่มีการสไลด์ตัวได้ดี เหมาะสกหรับงานปั้น งานขึ้นรูป ใช้ทำผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหารชิ้นใหญ่ๆ


4.3 ดินสโตนแวร์สำหรับงานหล่อชิ้นใหญ่ Stoneware Body for casting เหมาะสำหรับทำ ชุดห้องน้ำ สุขภัณฑ์ กระเบื้องลอน และกรงลูกแก้ว

4.4 ดินสโตนแวร์เนื้อแดง Red Stoneware Body เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับงานปั้น ที่มีสีหลังเผาแดงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เผาที่อุณหภูมิ 1220-1230 ํC จะให้ได้ผลิตภัณฑ์ชุดอาหารที่มีความโดดเด่น

4.5 ดินสโตนแวร์สำหรับงานปั้นชิ้นใหญ่ Stoneware Body for Hand throwing
5. เทอราคอตตา (Terra Cotta)เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีดินเหนียวผิวดินเผาแล้วมักมีสีแดง เนื้อไม่แกร่ง มีความพรุนตัวสูง มักไม่เคลือบผิวนิยมเคลือบด้วยสีต่างๆ ส่วนมากผลิตเป็นวัสดุก่อสร้าง กระเบื้องบุผนัง
6. แก้ว (Glass) เป็นเซรามิกที่โปร่งแสง บางชนิดขุ่น ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ได้แก่ หลอดไฟ แก้วน้ำขวด กระจก

7. วัสดุทนไฟ (Refractories) เป็นวัสดุประเภทอนินทรีย์พวกดิน หิน แร่ธาตุที่หลอมตัวได้ยากในอุณหภูมิสูง ต้องทนอุณหภูมิได้อย่างน้อย 1,600 องศาเซลเซียสตัวอย่างได้แก่ อิฐทนไฟ อิฐฉนวนทนไฟ
======================================================

 ประเภทของ เซรามิกส์
ประเภทของเซรามิก

เราสามารถจำแนกผลิตภัณฑ์เซรามิกตามคุณภาพเนื้อของผลิตภัณฑ์ ได้ดังนี้
1. พอร์ซเลน (Porcelain)เป็นเซรามิกที่มีเนื้อสีขาว เคลือบผิวเป็นมัน โปร่งแสงมีความแข็งแกร่งเหมือนแก้วไม่ดูดซึมน้ำ เคาะมีเสียงดังกังวานส่วนผสมของเนื้อดินที่ใช้คือ ดินขาว ดินเหนียว หรือบอลเคลย์ หินไชน่าสโตน แร่ฟันม้าและแร่ควอรตซ์ ผลิตภัณฑ์พอร์ซเลนใช้ในงาน ได้หลากหลายทั้งในชีวิตประจำวันและงานอื่นๆ
ดินพอร์ชเลนมี 3 แบบ ดังนี้
1.1 ดินพอร์ซเลนทั่วไป Common Porcelain Body ใช้สำหรับงานหล่อ ที่มีอัตราการหล่อแบบที่ดี และเผาแบบรีดักชั่น แต่ไม่โปร่งแสง เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่นำมาเขียนลายเบญจรงค์ หรือลายคราม

1.2 ดินอลูมิน่าพอร์ซเลน Alumina Porcelain Body ดินอลูมิน่าพอร์ซเลนเป็นดินที่ใช้กับงานเฉพาะที่ต้องการความแข็งแรงทนทานเช่นลูกถ้วยไฟฟ้า, ลูกบดและอิฐกรุ หรือสเปเซอร์ที่ต้องใช้แขวนสายไฟที่หนักเป็นตันได้โดยไม่เกิดความเสียหาย ดินในกลุ่มนี้จะมีสมบัติแตกต่างกันไป

1.3 ดินพอร์ซเลนเนื้อขาว Soft Porcelain Body ดินพอร์ซเลนเนื้อขาวจะแตกต่างกันในเรื่องของสีหลังเผา, ความโปร่งแสง, ความเหนียวของดินเพื่อให้เหมาะสมกับการเลือกใช้งาน มักใช้ทำ โคมไฟประดับ งานปั้น เช่นตุ๊กตาประดับตกแต่ง จานชาม


2. โบนไชน่า (Bone China)เป็นเครื่องปั้นดินเผาชั้นดีที่สุดมีราคาแพงสุดมีความขาวและเคลือบเป็นมันวาวมาก เนื้อละเอียด บางเบา และโปร่งแสงมากมีความแข็งแกร่งดีมาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ได้แก่ ถ้วย ชาม เครื่องประดับเป็นต้น โดยทั่วไปโบนไชนามีส่วนผสมหลักคือ เถ้ากระดูกประมาณร้อยละ 50 โดยน้ำหนัก และมีดินขาวเคโอลิน (kaolin) กับไชนาสโตน (china stone) อีกประมาณร้อยละ 25 (ในสหรัฐอเมริกาผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ชื่อโบนไชนาได้ต้องมีเถ้ากระดูกเป็นองค์ประกอบอย่างน้อยร้อยละ 25) ซึ่งปริมาณเถ้ากระดูกเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้โบนไชนามีเนื้อละเอียดสีขาว มีลักษณะโปร่งแสง และมีความแข็งมาก เถ้ากระดูกมีองค์ประกอบหลักคือ แคลเซียมฟอสเฟต (calcium phosphate, Ca3(PO4)2) ได้จากการนำกระดูกสัตว์ต่างๆ เช่น กระดูกวัว ควาย ม้า มากำจัดเศษเนื้อ เอ็นที่ติดอยู่กับกระดูกออก และนำไปเผาที่อุณหภูมิสูงประมาณ 1,000 - 1,100 องศาเซลเซียส เมื่อเถ้ากระดูกเย็นตัวลงจึงนำมาบดให้เป็น

เนื้อโบนไชน่ามักจะโปร่งแสง

3. เอิร์ธเธินแวร์ (Earthenware)เป็นผลิตภัณฑ์เซรามิกเคลือบผิวทึบแสง มีความพรุนสามารถดูดซึมน้ำได้เนื้อละเอียดสีไม่ขาวมาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ ได้แก่ หม้อดินเผา คนโท กระถางต้นไม้กระเบื้องมุงหลังคา
3.1 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟสูง Earthenware Body เป็นดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟสูงเนื้อหยาบที่ขึ้นรูปงานปั้นได้ดี ทำผลิตภัณฑ์ประเภทกระถางและกระเบื้องลอน เผาที่อุณหภูมิ 1200-1230 ํC ออกซิเดชั่น
3.2 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟต่ำหรือดินโดโลไมท์ Dolomite Earthenware Body เป็นดินโดโลไมท์ที่มีสีขาว น้ำหนักเบา นิยมทำของประดับตกแต่งหรือชุดห้องน้ำมากกว่า ทำผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร
3.3 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์เนื้อแดงหรือดินเทอราคอตต้า Terra Cotta Body ดินนี้ขึ้นรูปงานปั้นได้ดี และเผาได้ตั้งแต่ 1000-1230 C สีหลังเผาจะเป็นสีส้ม และเข้มตามอุณหภูมิที่เผาสูงขึ้น นิยมทำชุดอาหารและของตกแต่งบ้าน
4. สโตนแวร์ (Stoneware) เป็นกลุ่มดินผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายในการเลือกใช้ ทั้งดินงานปั้น, งานหล่อ, งานอัดปั๊ม เหมาะกับผลิตภัณฑ์สำหรับปรุงอาหาร Cookware ลักษณะเด่นของผลิตภัณฑ์สโตนแวร์มักจะชิ้นหนาและหนัก เน้นความแข็งแรงทนทาน
4.1 ดินสโตนแวร์เนื้อขาว White Stoneware Body เป็นดินสโตนแวร์เนื้อขาว เน้นที่จะใช้งานเคลือบใสตกแต่งด้วยสีใต้เคลือบ SAA ใช้ทั้งงานหล่อ, งานปั้นและงานอัด เป็นดินสำหรับการขึ้นรูปแบบ Isostatic press เหมาtสำหรับผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร

4.2 ดินสโตนแวร์ธรรมดา Common Stoneware Body เนื่องจากเป็นดินที่มีการสไลด์ตัวได้ดี เหมาะสกหรับงานปั้น งานขึ้นรูป ใช้ทำผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหารชิ้นใหญ่ๆ


4.3 ดินสโตนแวร์สำหรับงานหล่อชิ้นใหญ่ Stoneware Body for casting เหมาะสำหรับทำ ชุดห้องน้ำ สุขภัณฑ์ กระเบื้องลอน และกรงลูกแก้ว

4.4 ดินสโตนแวร์เนื้อแดง Red Stoneware Body เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับงานปั้น ที่มีสีหลังเผาแดงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เผาที่อุณหภูมิ 1220-1230 ํC จะให้ได้ผลิตภัณฑ์ชุดอาหารที่มีความโดดเด่น

4.5 ดินสโตนแวร์สำหรับงานปั้นชิ้นใหญ่ Stoneware Body for Hand throwing
5. เทอราคอตตา (Terra Cotta)เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีดินเหนียวผิวดินเผาแล้วมักมีสีแดง เนื้อไม่แกร่ง มีความพรุนตัวสูง มักไม่เคลือบผิวนิยมเคลือบด้วยสีต่างๆ ส่วนมากผลิตเป็นวัสดุก่อสร้าง กระเบื้องบุผนัง
6. แก้ว (Glass) เป็นเซรามิกที่โปร่งแสง บางชนิดขุ่น ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ได้แก่ หลอดไฟ แก้วน้ำขวด กระจก

7. วัสดุทนไฟ (Refractories) เป็นวัสดุประเภทอนินทรีย์พวกดิน หิน แร่ธาตุที่หลอมตัวได้ยากในอุณหภูมิสูง ต้องทนอุณหภูมิได้อย่างน้อย 1,600 องศาเซลเซียสตัวอย่างได้แก่ อิฐทนไฟ อิฐฉนวนทนไฟ
======================================================

 

http://upload.siamza.com/file_upload/modify/110815/2240859.jpg

 

http://upload.siamza.com/file_upload/modify/110815/2242143.png

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : แก้วเซรามิค

ที่มา : http://www.kaewceramic.com

วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2558

การเติมแต่งลวดลายด้วยวิธีการเขียนเคลือบบนเคลือบและกาลอกลวดลาย

การตกแต่งลวดลายด้วยวิธีการเขียนเคลือบบนเคลือบและการขูดลวดลาย
โดย พรทิพย์ เวียงอำพล
การตกแต่งผลิตภัณฑ์เซรามิกส์เป็นส่วนใหญ่แล้วจะใช้เคล็ดลับแบบผสมผสาน การตกแต่ง
ผลิตภัณฑ์ก่อนเผาดิบ มีทั้งที่ทำต่อหุ่นของสินค้าโดยตรง เช่น ทำให้เกิดการบิดเบี้ยว
เสียศูนย์ การทำให้เป็นทรงรี การตีเหลี่ยม หรือตัดเหลี่ยม เป็นอาทิ ซึ่งผลที่ได้คือ สินค้า
จะมีลักษณะพิเศษ แตกต่างจากสัดส่วนที่เกิดจากการปั้นแป้นหมุนหรือการหล่อแบบปกติ
นอกจากนี้ยังมีการตระเตรียมบนพื้นผิวของผลิตภัณฑ์ เช่น การขีดลาย การเซาะร่องขนาน
การแกะลาย การทำลายคราดหวี การถมลาย การฉลุลาย การประทับลาย ซึ่งจะทำให้
เกิดลวดลายต่าง ๆ บนพื้นผิวของสินค้า นอกจากการตกแต่งสินค้าก่อนการเผาดิบแล้ว
การตกแต่งสินค้าที่เผาดิบแล้วก็มีหลากหลายวิธีเช่นกัน อาทิ การใช้เอนโกบและน้ำสลิป
การเขียนสีในเคลือบ สีบนเคลือบ สีใต้เคลือบ หรือการเผาสีประกายมุก
ในการจัดอบรมหลักสูตร “การตกแต่งผลิตภัณฑ์เซรามิกส์ด้วยเทคนิคแบบผสมผสาน” โดย
กรมวิทยาศาสตร์บริการ ในครั้งนี้ จะได้ถ่ายทอดเคล็ดลับการตกแต่งด้วยวิธีการเขียนเคลือบบน
เคลือบและการขูดลวดลาย วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้หาได้ทั่วไป เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นการทำงานตกแต่ง
สามารถประยุกต์ใช้วัสดุอื่น ๆ มาตกแต่งได้ มีข้อควรคำนึงขณะปฏิบัติงาน เช่น ต้องทำงาน
ให้เสร็จในคราวเดียวเพื่อป้องกันน้ำเคลือบหลุดล่อน
การตกแต่งสินค้าเซรามิกด้วยน้ำเคลือบทึบสี จะใช้น้ำเคลือบสีตรงข้ามกันมา
ตกแต่ง เช่น เคลือบทึบสีดำเป็นพื้น ตกแต่งลวดลายด้วยเคลือบทึบสีขาว ในขณะที่น้ำเคลือบ
ยังไม่ได้ทำการเผาเคลือบ เน้นลวดลายให้เด่นชัดโดยการใช้น้ำเคลือบข้นและการชูดขีด จากนั้น
นำไปเผาที่อุณหภูมิเคลือบ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จะมีความสวยงามลึกซึ้งกว่าการเขียนด้วยสีธรรมดา


เครื่องใช้ไม้สอย
- น้ำเคลือบทึบสี
- สีใต้เคลือบ
- พู่กันขนยาว No.1
- พู่กันธรรมดา No.8 และ No.12
- พู่กันจีน
- จานสี
- ถ้วยน้ำ
- เครื่องมือปั้นขนาดเล็ก หรือ เหล็กปลายแหลม
- สินค้าเผาดิบ

โรงงานแก้วเซรามิค


2
วิธีทำ
เคลือบผลิตภัณฑ์ที่เตรียมไว้ด้วยวิธีการพ่นเคลือบให้ทั่วและมีความหนา
พอสมควร (ประมาณ 2 ครั้ง) น้ำเคลือบที่จะใช้เขียนตกแต่งจะต้องมีความข้นถนัดมือ
ไม่ข้นหรือใสเกินไป สีที่ใช้ควรเป็นสีตรงข้ามกับสีเคลือบ การจัดวางชิ้นงานในเตาเผาควรวางใน
บริเวณที่มีอุณหภูมิสูงกว่าส่วนอื่น ๆ เพื่อให้น้ำเคลือบหลอมตัวเข้าหากัน เผาที่อุณหภูมิของ
น้ำเคลือบ
ข้อคิด
- ใช้เหล็ก หรือ เครื่องมือปั้นขนาดเล็กขูดเน้นลวดลายให้สวยงาม เพื่อให้เห็น
ความเหลื่อมล้ำของพื้นผิว
- การพ่นผิวด้วยสีเข้ม แล้วตกแต่งลวดลายด้วยสีอ่อน เช่น ใช้น้ำเคลือบสีดำ
พ่นผิวสินค้า แล้วใช้น้ำเคลือบสีขาวมาผสมด้วยสีใต้เคลือบ เป็นสีตามที่มีอยู่ในธรรมชาติมา
ตกแต่งลวดลายบนพื้นผิวสีดำ ผลที่ได้จะให้ความสวยงามที่ดูลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ขั้นตอนการปฏิบัติ


1. เตรียมวัสดุอุปกรณ์สำหรับการตกแต่งลวดลายด้วยเคลือบบนเคลือบ
พ่นเคลือบสินค้า 2 ครั้ง เพื่อให้มีความหนาพอเหมาะพอควร


2. เตรียมผลิตภัณฑ์เผาดิบแล้วนำไปพ่นเคลือบสีพื้นด้วยเคลือบสีดำ
ผลิตภัณฑ์เซรามิกที่พ่นเคลือบเสร็จแล้ว


3. ใช้พู่กันจีนจุ่มน้ำเคลือบสีขาวเพื่อเขียนลายบนผลิตภัณฑ์เซรามิค


4. ใช้สีใต้เคลือบเขียนตกแต่งเพื่อให้เกิดเป็นมิติ ลวดลายและแสงเงา บนผลิตภัณฑ์


5. ใช้เคลือบสีขาวตกแต่งอีกครั้งเพื่อเพิ่มการระบายสี


6 ใช้นิ้วเกลี่ยเพื่อให้เกิดระยะใกล้ / ไกล ของภาพบนสินค้าและทำให้ภาพดู นุ่มนวลขึ้น
ทำทั่วทั้งใบ และใช้เหล็กขูดน้ำเคลือบตกแต่งในส่วนที่ไม่ต้องการออก
เทคนิคการแก้ปัญหาระหว่างการทำงาน
• กรณีเคลือบที่ใช้ในการตกแต่งหลุด ให้ใช้พู่กันจุ่มในน้ำเคลือบแล้วค่อย ๆ
แตะลงไปตรงบริเวณที่เคลือบนั้นหลุด รอให้แห้งแล้วค่อย ๆ เติมน้ำเคลือบลง
ไปจนได้ระดับที่เท่ากัน จากนั้นเกลี่ยให้เรียบด้วยนิ้วมือหรือเครื่องมือตกแต่ง
• กรณีเคลือบที่ใช้ในการตกแต่งเกิดฟองอากาศ ให้ใช้เล็บมือค่อย ๆ กดให้
ฟองอากาศนั้นหายไป


7. ทำการขูดลายบนผลิตภัณฑ์เพื่อให้เกิดมิติของภาพ ระยะใกล้ / ไกล และลวดลายบน
ผลิตภัณฑ์
ข้อควรคำนึง การตกแต่งด้วยเทคนิคนี้ ควรทำให้เสร็จขณะที่น้ำเคลือบยังมีความชื้น
เพราะหากพ่นเคลือบแล้วปล่อยทิ้งไว้นาน เมื่อทำการตกแต่งทั้งการเขียนและการขูด เคลือบอาจ
หลุดทำให้การทำงานตกแต่งยากและได้ผลงานที่ไม่สมบูรณ์


8. พ่นเคลือบสีขาวลงบนผลิตภัณฑ์ส่วนที่เขียนเป็นดอกไม้บาง ๆ อีก 1 ครั้ง แล้วใช้
แอร์บรัชพ่นสีใต้เคลือบส่วนที่เป็นเกสรของดอกไม้ (เนื่องจากน้ำเคลือบหมดความชื้น จึงควรจะ
ช่วยด้วยการพ่นแทนการเขียนด้วยมือ)


9. นำชิ้นงานที่ตกแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้วเข้าเตาเผาที่อุณหภูมิ 1230 องศาเซลเซียส
ผลิตภัณฑ์ที่ได้จะมีความสวยงาม ลวดลายที่ตกแต่งจะดูนุ่มนวลลึกซึ้งแตกต่างจากการตกแต่ง
ด้วยวิธีอื่น
ภาคตกแต่งลวดลายด้วยน้ำเคลือบบนเคลือบก่อนเผาเคลือบ
(ผลงานของสมาชิกศูนย์ศิลปาชีพสีบัวทอง จังหวัดอ่างทอง)
10ตัวอย่างลวดลายในการตกแต่งผลิตภัณฑ์เซรามิก



โดย นางพรทิพย์ เวียงอำพลร

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : โรงงานแก้วเซรามิค

ขอบคุณบทความจาก : http://www.kaewceramic.com

วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2558

การตกแต่งลวดลายด้วยวิธีลายเคลือบบนเคลือบและการปลอกจิตร

การตกแต่งลวดลายด้วยวิธีการเขียนเคลือบบนเคลือบและการขูดลวดลาย
โดย พรทิพย์ เวียงอำพล
การตกแต่งผลิตภัณฑ์เซรามิกส์จำนวนมากแล้วจะใช้กลยุทธ์แบบผสมผสาน การตกแต่ง
สินค้าก่อนเผาดิบ มีทั้งที่ทำต่อรูปร่างของผลิตภัณฑ์โดยตรง เช่น ทำให้เกิดการเหยเก
เสียศูนย์ การทำให้เป็นทรงรี การตีเหลี่ยม หรือตัดเหลี่ยม เป็นต้น ซึ่งผลที่ได้คือ ผลิตภัณฑ์
จะมีลักษณะดีเยี่ยม เคลื่อนคลาดจากรูปทรงที่เกิดจากการปั้นแป้นหมุนหรือการหล่อแบบโดยปกติ
นอกจากนี้ยังมีการเสริมแต่งบนพื้นผิวของผลิตภัณฑ์ เช่น การขีดลาย การเซาะร่องขนาน
การแกะลาย การทำลายคราดหวี การถมลาย การฉลุลาย การประทับลาย ซึ่งจะทำให้
เกิดลวดลายต่าง ๆ บนพื้นผิวของผลิตภัณฑ์ นอกจากการตกแต่งสินค้าก่อนการเผาดิบแล้ว
การตกแต่งสินค้าที่เผาดิบแล้วก็มีหลากหลายวิธีเช่นกัน อาทิ การใช้เอนโกบและน้ำสลิป
การเขียนสีในเคลือบ สีบนเคลือบ สีใต้เคลือบ หรือการเผาสีประกายมุก
ในการจัดอบรมหลักสูตร “การตกแต่งผลิตภัณฑ์เซรามิกด้วยเทคนิคแบบผสมผสาน” โดย
กรมวิทยาศาสตร์บริการ ในครั้งนี้ จะได้ถ่ายทอดเคล็ดลับการตกแต่งด้วยวิธีการเขียนเคลือบบน
เคลือบและการขูดลวดลาย เครื่องใช้ไม้สอยที่ใช้หาได้ทั่วไป เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นการทำงานตกแต่ง
สามารถประยุกต์ใช้วัสดุอื่น ๆ มาตกแต่งได้ มีข้อควรคำนึงขณะปฏิบัติงาน เช่น ต้องทำงาน
ให้เสร็จในคราวเดียวเพื่อป้องกันน้ำเคลือบหลุดล่อน
การตกแต่งสินค้าเซรามิคด้วยน้ำเคลือบทึบสี จะใช้น้ำเคลือบสีตรงข้ามกันมา
ตกแต่ง เช่น เคลือบทึบสีดำเป็นพื้น ตกแต่งลวดลายด้วยเคลือบทึบสีขาว ในขณะที่น้ำเคลือบ
ยังไม่ได้ทำการเผาเคลือบ เน้นลวดลายให้เด่นชัดโดยการใช้น้ำเคลือบข้นและการชูดขีด จากนั้น
นำไปเผาที่อุณหภูมิเคลือบ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จะมีความสวยงามลึกซึ้งกว่าการเขียนด้วยสีธรรมดา


วัตถุ
- น้ำเคลือบทึบสี
- สีใต้เคลือบ
- พู่กันขนยาว No.1
- พู่กันธรรมดา No.8 และ No.12
- พู่กันจีน
- จานสี
- ถ้วยน้ำ
- เครื่องมือปั้นขนาดเล็ก หรือ เหล็กปลายแหลม
- สินค้าเผาดิบ


2
วิธีทำ
เคลือบผลิตภัณฑ์ที่เตรียมไว้ด้วยวิธีการพ่นเคลือบให้ทั่วและมีความหนา
พอสมควร (ประมาณ 2 ครั้ง) น้ำเคลือบที่จะใช้เขียนตกแต่งจะต้องมีความข้นพอสมควร
ไม่ข้นหรือใสเกินไป สีที่ใช้ควรเป็นสีตรงข้ามกับสีเคลือบ การจัดวางชิ้นงานในเตาเผาควรวางใน
บริเวณที่มีอุณหภูมิสูงกว่าส่วนอื่น ๆ เพื่อให้น้ำเคลือบหลอมตัวเข้าหากัน เผาที่อุณหภูมิของ
น้ำเคลือบ
ข้อคิด
- ใช้เหล็ก หรือ เครื่องมือปั้นขนาดเล็กขูดเน้นลวดลายให้สวยงาม เพื่อให้เห็น
ความเหลื่อมล้ำของพื้นผิว
- การพ่นผิวด้วยสีเข้ม แล้วตกแต่งลวดลายด้วยสีอ่อน เช่น ใช้น้ำเคลือบสีดำ
พ่นผิวผลิตภัณฑ์ แล้วใช้น้ำเคลือบสีขาวมาผสมด้วยสีใต้เคลือบ เป็นสีตามที่มีอยู่ในธรรมชาติมา
ตกแต่งลวดลายบนพื้นผิวสีดำ ผลที่ได้จะให้ความสวยงามที่ดูลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ขั้นตอนการปฏิบัติ


1. เตรียมวัตถุสำหรับการตกแต่งลวดลายด้วยเคลือบบนเคลือบ
พ่นเคลือบสินค้า 2 ครั้ง เพื่อให้มีความหนาเหมาะเจาะ

โรงงานแก้วเซรามิค


2. เตรียมผลิตภัณฑ์เผาดิบแล้วนำไปพ่นเคลือบสีพื้นด้วยเคลือบสีดำ
สินค้าเซรามิกที่พ่นเคลือบเสร็จแล้ว


3. ใช้พู่กันจีนจุ่มน้ำเคลือบสีขาวเพื่อเขียนลายบนสินค้าเซรามิกส์


4. ใช้สีใต้เคลือบเขียนตกแต่งเพื่อให้เกิดเป็นมิติ ลวดลายและแสงเงา บนสินค้า


5. ใช้เคลือบสีขาวตกแต่งอีกครั้งเพื่อเพิ่มจิตร


6 ใช้นิ้วเกลี่ยเพื่อให้เกิดระยะใกล้ / ไกล ของภาพบนผลิตภัณฑ์และทำให้ภาพดู นุ่มนวลขึ้น
ทำทั่วทั้งใบ และใช้เหล็กขูดน้ำเคลือบตกแต่งในส่วนที่ไม่ต้องการออก
เทคนิคการแก้ปัญหาระหว่างการทำงาน
• กรณีเคลือบที่ใช้ในการตกแต่งหลุด ให้ใช้พู่กันจุ่มในน้ำเคลือบแล้วค่อย ๆ
แตะลงไปตรงบริเวณที่เคลือบนั้นหลุด รอให้แห้งแล้วค่อย ๆ เติมน้ำเคลือบลง
ไปจนได้ระดับที่เท่ากัน จากนั้นเกลี่ยให้เรียบด้วยนิ้วมือหรือเครื่องมือตกแต่ง
• กรณีเคลือบที่ใช้ในการตกแต่งเกิดฟองอากาศ ให้ใช้เล็บมือค่อย ๆ กดให้
ฟองอากาศนั้นหายไป


7. ทำการขูดลายบนผลิตภัณฑ์เพื่อให้เกิดมิติของภาพ ระยะใกล้ / ไกล และลวดลายบน
ผลิตภัณฑ์
ข้อควรคำนึง การตกแต่งด้วยเทคนิคนี้ ควรทำให้เสร็จขณะที่น้ำเคลือบยังมีความชื้น
เพราะหากพ่นเคลือบแล้วปล่อยทิ้งไว้นาน เมื่อทำการตกแต่งทั้งการเขียนและการขูด เคลือบอาจ
หลุดทำให้การทำงานตกแต่งยากและได้ผลงานที่ไม่สมบูรณ์


8. พ่นเคลือบสีขาวลงบนผลิตภัณฑ์ส่วนที่เขียนเป็นดอกไม้บาง ๆ อีก 1 ครั้ง แล้วใช้
แอร์บรัชพ่นสีใต้เคลือบส่วนที่เป็นเกสรของดอกไม้ (เนื่องจากน้ำเคลือบหมดความชื้น จึงควรจะ
ช่วยด้วยการพ่นแทนการเขียนด้วยมือ)


9. นำชิ้นงานที่ตกแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้วเข้าเตาเผาที่อุณหภูมิ 1230 องศาเซลเซียส
ผลิตภัณฑ์ที่ได้จะมีความสวยงาม ลวดลายที่ตกแต่งจะดูนุ่มนวลลึกซึ้งแตกต่างจากการตกแต่ง
ด้วยวิธีอื่น
ภาคตกแต่งลวดลายด้วยน้ำเคลือบบนเคลือบก่อนเผาเคลือบ
(ผลงานของสมาชิกศูนย์ศิลปาชีพสีบัวทอง จังหวัดอ่างทอง)
10ตัวอย่างลวดลายในการตกแต่งผลิตภัณฑ์เซรามิก



โดย นางพรทิพย์ เวียงอำพลร

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : โรงงานแก้วเซรามิค

ที่มา : http://www.kaewceramic.com

วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2558

การเสริมแต่งลวดลายด้วยวิธีรอยเขียนเคลือบบนเคลือบและการถากการวาดเขียน

การตกแต่งลวดลายด้วยวิธีการเขียนเคลือบบนเคลือบและการขูดลวดลาย
โดย พรทิพย์ เวียงอำพล
การตกแต่งสินค้าเซรามิกจำนวนมากแล้วจะใช้เคล็ดแบบผสมผสาน การตกแต่ง
ผลิตภัณฑ์ก่อนเผาดิบ มีทั้งที่ทำต่อรูปร่างของผลิตภัณฑ์โดยตรง เช่น ทำให้เกิดการบิดเบี้ยว
เสียศูนย์ การทำให้เป็นทรงรี การตีเหลี่ยม หรือตัดเหลี่ยม ฯลฯ ซึ่งผลที่ได้คือ สินค้า
จะมีลักษณะเด่น แหวกแนวจากรูปทรงที่เกิดจากการปั้นแป้นหมุนหรือการหล่อแบบโดยปกติ
นอกจากนี้ยังมีการแต่งเติมบนพื้นผิวของผลิตภัณฑ์ เช่น การขูดขีดลาย การเซาะร่องขนาน
การแกะลาย การทำลายคราดหวี การถมลาย การฉลุลาย การประทับลาย ซึ่งจะทำให้
เกิดลวดลายต่าง ๆ บนพื้นผิวของผลิตภัณฑ์ นอกจากการตกแต่งผลิตภัณฑ์ก่อนการเผาดิบแล้ว
การตกแต่งผลิตภัณฑ์ที่เผาดิบแล้วก็มีหลากหลายวิธีเช่นกัน อาทิ การใช้เอนโกบและน้ำสลิป
การเขียนสีในเคลือบ สีบนเคลือบ สีใต้เคลือบ หรือการเผาสีประกายมุก
ในการจัดอบรมหลักสูตร “การตกแต่งผลิตภัณฑ์เซรามิคด้วยเทคนิคแบบผสมผสาน” โดย
กรมวิทยาศาสตร์บริการ ในครั้งนี้ จะได้ถ่ายทอดเทคนิคการตกแต่งด้วยวิธีการเขียนเคลือบบน
เคลือบและการขูดลวดลาย เครื่องมือที่ใช้หาได้ทั่วไป เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นการทำงานตกแต่ง
สามารถปรับใช้ใช้วัสดุอื่น ๆ มาตกแต่งได้ มีข้อควรคำนึงขณะปฏิบัติงาน เช่น ต้องทำงาน
ให้เสร็จในคราวเดียวเพื่อป้องกันน้ำเคลือบหลุดล่อน
การตกแต่งผลิตภัณฑ์เซรามิกด้วยน้ำเคลือบทึบสี จะใช้น้ำเคลือบสีตรงข้ามกันมา
ตกแต่ง เช่น เคลือบทึบสีดำเป็นพื้น ตกแต่งลวดลายด้วยเคลือบทึบสีขาว ในขณะที่น้ำเคลือบ
ยังไม่ได้ทำการเผาเคลือบ เน้นลวดลายให้เด่นชัดโดยการใช้น้ำเคลือบข้นและการชูดขีด จากนั้น
นำไปเผาที่อุณหภูมิเคลือบ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จะมีความสวยงามลึกซึ้งกว่าการเขียนด้วยสีธรรมดา

แก้วเซรามิค ลําปาง


วัสดุอุปกรณ์
- น้ำเคลือบทึบสี
- สีใต้เคลือบ
- พู่กันขนยาว No.1
- พู่กันธรรมดา No.8 และ No.12
- พู่กันจีน
- จานสี
- ถ้วยน้ำ
- เครื่องมือปั้นขนาดเล็ก หรือ เหล็กปลายแหลม
- ผลิตภัณฑ์เผาดิบ


2
วิธีทำ
เคลือบสินค้าที่เตรียมไว้ด้วยวิธีการพ่นเคลือบให้ทั่วและมีความหนา
พอสมควร (ประมาณ 2 ครั้ง) น้ำเคลือบที่จะใช้เขียนตกแต่งจะต้องมีความข้นเหมาะกับมือ
ไม่ข้นหรือใสเกินไป สีที่ใช้ควรเป็นสีตรงข้ามกับสีเคลือบ การจัดวางชิ้นงานในเตาเผาควรวางใน
บริเวณที่มีอุณหภูมิสูงกว่าส่วนอื่น ๆ เพื่อให้น้ำเคลือบหลอมตัวเข้าหากัน เผาที่อุณหภูมิของ
น้ำเคลือบ
ประเด็น
- ใช้เหล็ก หรือ เครื่องมือปั้นขนาดเล็กขูดเน้นลวดลายให้สวยงาม เพื่อให้เห็น
ความแปลกของพื้นผิว
- การพ่นผิวด้วยสีเข้ม แล้วตกแต่งลวดลายด้วยสีอ่อน เช่น ใช้น้ำเคลือบสีดำ
พ่นผิวสินค้า แล้วใช้น้ำเคลือบสีขาวมาผสมด้วยสีใต้เคลือบ เป็นสีตามที่มีอยู่ในธรรมชาติมา
ตกแต่งลวดลายบนพื้นผิวสีดำ ผลที่ได้จะให้ความสวยงามที่ดูลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ขั้นตอนการปฏิบัติ


1. เตรียมวัสดุอุปกรณ์สำหรับการตกแต่งลวดลายด้วยเคลือบบนเคลือบ
พ่นเคลือบสินค้า 2 ครั้ง เพื่อให้มีความหนาเหมาะสม


2. เตรียมสินค้าเผาดิบแล้วนำไปพ่นเคลือบสีพื้นด้วยเคลือบสีดำ
สินค้าเซรามิกที่พ่นเคลือบเสร็จแล้ว


3. ใช้พู่กันจีนจุ่มน้ำเคลือบสีขาวเพื่อเขียนลายบนผลิตภัณฑ์เซรามิค


4. ใช้สีใต้เคลือบเขียนตกแต่งเพื่อให้เกิดเป็นมิติ ลวดลายและแสงเงา บนผลิตภัณฑ์


5. ใช้เคลือบสีขาวตกแต่งอีกครั้งเพื่อเพิ่มการวาดเขียน


6 ใช้นิ้วเกลี่ยเพื่อให้เกิดระยะใกล้ / ไกล ของภาพบนผลิตภัณฑ์และทำให้ภาพดู นุ่มนวลขึ้น
ทำทั่วทั้งใบ และใช้เหล็กขูดน้ำเคลือบตกแต่งในส่วนที่ไม่ต้องการออก
เทคนิคการแก้ปัญหาระหว่างการทำงาน
• กรณีเคลือบที่ใช้ในการตกแต่งหลุด ให้ใช้พู่กันจุ่มในน้ำเคลือบแล้วค่อย ๆ
แตะลงไปตรงบริเวณที่เคลือบนั้นหลุด รอให้แห้งแล้วค่อย ๆ เติมน้ำเคลือบลง
ไปจนได้ระดับที่เท่ากัน จากนั้นเกลี่ยให้เรียบด้วยนิ้วมือหรือเครื่องมือตกแต่ง
• กรณีเคลือบที่ใช้ในการตกแต่งเกิดฟองอากาศ ให้ใช้เล็บมือค่อย ๆ กดให้
ฟองอากาศนั้นหายไป


7. ทำการขูดลายบนผลิตภัณฑ์เพื่อให้เกิดมิติของภาพ ระยะใกล้ / ไกล และลวดลายบน
ผลิตภัณฑ์
ข้อควรคำนึง การตกแต่งด้วยเทคนิคนี้ ควรทำให้เสร็จขณะที่น้ำเคลือบยังมีความชื้น
เพราะหากพ่นเคลือบแล้วปล่อยทิ้งไว้นาน เมื่อทำการตกแต่งทั้งการเขียนและการขูด เคลือบอาจ
หลุดทำให้การทำงานตกแต่งยากและได้ผลงานที่ไม่สมบูรณ์


8. พ่นเคลือบสีขาวลงบนผลิตภัณฑ์ส่วนที่เขียนเป็นดอกไม้บาง ๆ อีก 1 ครั้ง แล้วใช้
แอร์บรัชพ่นสีใต้เคลือบส่วนที่เป็นเกสรของดอกไม้ (เนื่องจากน้ำเคลือบหมดความชื้น จึงควรจะ
ช่วยด้วยการพ่นแทนการเขียนด้วยมือ)


9. นำชิ้นงานที่ตกแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้วเข้าเตาเผาที่อุณหภูมิ 1230 องศาเซลเซียส
ผลิตภัณฑ์ที่ได้จะมีความสวยงาม ลวดลายที่ตกแต่งจะดูนุ่มนวลลึกซึ้งแตกต่างจากการตกแต่ง
ด้วยวิธีอื่น
ภาคตกแต่งลวดลายด้วยน้ำเคลือบบนเคลือบก่อนเผาเคลือบ
(ผลงานของสมาชิกศูนย์ศิลปาชีพสีบัวทอง จังหวัดอ่างทอง)
10ตัวอย่างลวดลายในการตกแต่งผลิตภัณฑ์เซรามิก



โดย นางพรทิพย์ เวียงอำพลร

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : แก้วเซรามิค ลําปาง

ที่มา : http://www.kaewceramic.com

วันเสาร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2558

การตกแต่งภายในลวดลายด้วยวิธีการเขียนเคลือบบนเคลือบและการขูดการระบายสี

การตกแต่งลวดลายด้วยวิธีการเขียนเคลือบบนเคลือบและการขูดลวดลาย
โดย พรทิพย์ เวียงอำพล
การตกแต่งสินค้าเซรามิกส์ส่วนใหญ่แล้วจะใช้เคล็ดแบบผสมผสาน การตกแต่ง
สินค้าก่อนเผาดิบ มีทั้งที่ทำต่อรูปร่างของสินค้าโดยตรง เช่น ทำให้เกิดการบิดเบี้ยว
เสียศูนย์ การทำให้เป็นทรงรี การตีเหลี่ยม หรือตัดเหลี่ยม เป็นอาทิ ซึ่งผลที่ได้คือ ผลิตภัณฑ์
จะมีลักษณะพิเศษ เหลื่อมล้ำจากหุ่นที่เกิดจากการปั้นแป้นหมุนหรือการหล่อแบบนิจสิน
นอกจากนี้ยังมีการปติยัตบนพื้นผิวของผลิตภัณฑ์ เช่น การขูดขีดลาย การเซาะร่องขนาน
การแกะลาย การทำลายคราดหวี การถมลาย การฉลุลาย การประทับลาย ซึ่งจะทำให้
เกิดลวดลายต่าง ๆ บนพื้นผิวของสินค้า นอกจากการตกแต่งสินค้าก่อนการเผาดิบแล้ว
การตกแต่งสินค้าที่เผาดิบแล้วก็มีหลากหลายวิธีเช่นกัน อาทิ การใช้เอนโกบและน้ำสลิป
การเขียนสีในเคลือบ สีบนเคลือบ สีใต้เคลือบ หรือการเผาสีประกายมุก
ในการจัดอบรมหลักสูตร “การตกแต่งผลิตภัณฑ์เซรามิคด้วยเทคนิคแบบผสมผสาน” โดย
กรมวิทยาศาสตร์บริการ ในครั้งนี้ จะได้ถ่ายทอดเคล็ดการตกแต่งด้วยวิธีการเขียนเคลือบบน
เคลือบและการขูดลวดลาย เครื่องใช้ไม้สอยที่ใช้หาได้ทั่วไป เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นการทำงานตกแต่ง
สามารถประยุกต์ใช้วัสดุอื่น ๆ มาตกแต่งได้ มีข้อควรคำนึงขณะปฏิบัติงาน เช่น ต้องทำงาน
ให้เสร็จในคราวเดียวเพื่อป้องกันน้ำเคลือบหลุดล่อน
การตกแต่งสินค้าเซรามิกส์ด้วยน้ำเคลือบทึบสี จะใช้น้ำเคลือบสีตรงข้ามกันมา
ตกแต่ง เช่น เคลือบทึบสีดำเป็นพื้น ตกแต่งลวดลายด้วยเคลือบทึบสีขาว ในขณะที่น้ำเคลือบ
ยังไม่ได้ทำการเผาเคลือบ เน้นลวดลายให้เด่นชัดโดยการใช้น้ำเคลือบข้นและการชูดขีด จากนั้น
นำไปเผาที่อุณหภูมิเคลือบ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จะมีความสวยงามลึกซึ้งกว่าการเขียนด้วยสีธรรมดา


วัตถุ
- น้ำเคลือบทึบสี
- สีใต้เคลือบ
- พู่กันขนยาว No.1
- พู่กันธรรมดา No.8 และ No.12
- พู่กันจีน
- จานสี
- ถ้วยน้ำ
- เครื่องมือปั้นขนาดเล็ก หรือ เหล็กปลายแหลม
- สินค้าเผาดิบ


2
วิธีทำ
เคลือบผลิตภัณฑ์ที่เตรียมไว้ด้วยวิธีการพ่นเคลือบให้ทั่วและมีความหนา
พอสมควร (ประมาณ 2 ครั้ง) น้ำเคลือบที่จะใช้เขียนตกแต่งจะต้องมีความข้นพอสมควร
ไม่ข้นหรือใสเกินไป สีที่ใช้ควรเป็นสีตรงข้ามกับสีเคลือบ การจัดวางชิ้นงานในเตาเผาควรวางใน
บริเวณที่มีอุณหภูมิสูงกว่าส่วนอื่น ๆ เพื่อให้น้ำเคลือบหลอมตัวเข้าหากัน เผาที่อุณหภูมิของ
น้ำเคลือบ
คำแนะนำ
- ใช้เหล็ก หรือ เครื่องมือปั้นขนาดเล็กขูดเน้นลวดลายให้สวยงาม เพื่อให้เห็น
ความแปลกของพื้นผิว
- การพ่นผิวด้วยสีเข้ม แล้วตกแต่งลวดลายด้วยสีอ่อน เช่น ใช้น้ำเคลือบสีดำ
พ่นผิวผลิตภัณฑ์ แล้วใช้น้ำเคลือบสีขาวมาผสมด้วยสีใต้เคลือบ เป็นสีตามที่มีอยู่ในธรรมชาติมา
ตกแต่งลวดลายบนพื้นผิวสีดำ ผลที่ได้จะให้ความสวยงามที่ดูลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ขั้นตอนการปฏิบัติ


1. เตรียมเครื่องไม้เครื่องมือสำหรับการตกแต่งลวดลายด้วยเคลือบบนเคลือบ
พ่นเคลือบผลิตภัณฑ์ 2 ครั้ง เพื่อให้มีความหนากำลังดี


2. เตรียมสินค้าเผาดิบแล้วนำไปพ่นเคลือบสีพื้นด้วยเคลือบสีดำ
ผลิตภัณฑ์เซรามิกที่พ่นเคลือบเสร็จแล้ว


3. ใช้พู่กันจีนจุ่มน้ำเคลือบสีขาวเพื่อเขียนลายบนผลิตภัณฑ์เซรามิก


4. ใช้สีใต้เคลือบเขียนตกแต่งเพื่อให้เกิดเป็นมิติ ลวดลายและแสงเงา บนสินค้า


5. ใช้เคลือบสีขาวตกแต่งอีกครั้งเพื่อเพิ่มการระบายสี


6 ใช้นิ้วเกลี่ยเพื่อให้เกิดระยะใกล้ / ไกล ของภาพบนสินค้าและทำให้ภาพดู นุ่มนวลขึ้น
ทำทั่วทั้งใบ และใช้เหล็กขูดน้ำเคลือบตกแต่งในส่วนที่ไม่ต้องการออก
เทคนิคการแก้ปัญหาระหว่างการทำงาน
• กรณีเคลือบที่ใช้ในการตกแต่งหลุด ให้ใช้พู่กันจุ่มในน้ำเคลือบแล้วค่อย ๆ
แตะลงไปตรงบริเวณที่เคลือบนั้นหลุด รอให้แห้งแล้วค่อย ๆ เติมน้ำเคลือบลง
ไปจนได้ระดับที่เท่ากัน จากนั้นเกลี่ยให้เรียบด้วยนิ้วมือหรือเครื่องมือตกแต่ง
• กรณีเคลือบที่ใช้ในการตกแต่งเกิดฟองอากาศ ให้ใช้เล็บมือค่อย ๆ กดให้
ฟองอากาศนั้นหายไป

แก้วเซรามิค ลําปาง


7. ทำการขูดลายบนผลิตภัณฑ์เพื่อให้เกิดมิติของภาพ ระยะใกล้ / ไกล และลวดลายบน
ผลิตภัณฑ์
ข้อควรคำนึง การตกแต่งด้วยเทคนิคนี้ ควรทำให้เสร็จขณะที่น้ำเคลือบยังมีความชื้น
เพราะหากพ่นเคลือบแล้วปล่อยทิ้งไว้นาน เมื่อทำการตกแต่งทั้งการเขียนและการขูด เคลือบอาจ
หลุดทำให้การทำงานตกแต่งยากและได้ผลงานที่ไม่สมบูรณ์


8. พ่นเคลือบสีขาวลงบนผลิตภัณฑ์ส่วนที่เขียนเป็นดอกไม้บาง ๆ อีก 1 ครั้ง แล้วใช้
แอร์บรัชพ่นสีใต้เคลือบส่วนที่เป็นเกสรของดอกไม้ (เนื่องจากน้ำเคลือบหมดความชื้น จึงควรจะ
ช่วยด้วยการพ่นแทนการเขียนด้วยมือ)


9. นำชิ้นงานที่ตกแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้วเข้าเตาเผาที่อุณหภูมิ 1230 องศาเซลเซียส
ผลิตภัณฑ์ที่ได้จะมีความสวยงาม ลวดลายที่ตกแต่งจะดูนุ่มนวลลึกซึ้งแตกต่างจากการตกแต่ง
ด้วยวิธีอื่น
ภาคตกแต่งลวดลายด้วยน้ำเคลือบบนเคลือบก่อนเผาเคลือบ
(ผลงานของสมาชิกศูนย์ศิลปาชีพสีบัวทอง จังหวัดอ่างทอง)
10ตัวอย่างลวดลายในการตกแต่งผลิตภัณฑ์เซรามิก



โดย นางพรทิพย์ เวียงอำพลร

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : แก้วเซรามิค ลําปาง

ขอบคุณบทความจาก : http://www.kaewceramic.com