วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Ceramic Processing

Ceramic History

นักโบราณคดีได้ค้นพบเซรามิกของสัตว์สองเท้าทำวันที่กลับไปอย่างน้อย 24,000 ปีก่อนคริสตกาล เซรามิคเหล่านี้ถูกพบในสโลวาเกียและอยู่ในรูปแบบของสัตว์และมนุษย์ตุ๊กตา, แผ่นและลูก เซรามิคเหล่านี้ที่ทำจากไขมันสัตว์และกระดูกผสมกับเถ้ากระดูกและวัสดุเหมือนดินที่ดี หลังจากที่ขึ้นรูปเซรามิกส์ถูกยิงที่อุณหภูมิระหว่าง 500-800 องศาเซลเซียสในโดมและเตาเผารูปเกือกม้าบางส่วนที่ขุดลงไปในดินที่มีผนังเหลือง ในขณะที่มันไม่ชัดเจนว่าเซรามิกเหล่านี้ถูกนำมาใช้ก็ไม่ได้คิดว่าจะได้รับประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง ใช้งานครั้งแรกของเรือเครื่องปั้นดินเผาทำงานคิดว่าจะเป็นใน 9,000 ปีก่อนคริสตกาล เรือเหล่านี้ถูกนำมาใช้ส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะถือและเก็บเมล็ดพืชและอาหารอื่น ๆ

มันเป็นข้อคิดเห็นที่ผลิตแก้วโบราณมีสัมพันธภาพอย่างใกล้ชิดกับการทำเครื่องปั้นดินเผาที่เจริญรุ่งเรืองในสังคมอียิปต์ประมาณ 8,000 ปีก่อนคริสตกาล ในขณะที่การยิงเครื่องปั้นดินเผาการปรากฏตัวของแคลเ​​ซียมออกไซด์ (CaO) ที่มีทรายรวมกับโซดาและร้อนของเตาเผาเครื่องปั้นดินเผาที่อาจมีผลในการเคลือบสีบนหม้อเซรามิก ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามันไม่ได้จนกว่า 1500 ปีก่อนคริสตกาลกระจกที่ถูกผลิตเป็นอิสระจากเซรามิกและแฟชั่นเข้ารายการแยกต่างหาก

ตั้งแต่อดีตกาลเหล่านี้เทคโนโลยีและการใช้งานของเซรามิค (รวมถึงแก้ว) ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรามักจะใช้สำหรับการรับบทบาทที่สำคัญที่เซรามิกได้เล่นในความคืบหน้าของมนุษย์โลก ด้านล่างเป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของวิธีการเซรามิกที่มีความสำคัญต่อสังคม

แก้วสกรีนโลโก้ Credit : ddpromote.com คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : แก้วสกรีนโลโก้

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.kaewceramic.com

ลักษณะการสกรีน ราคางานสกรีนประเภทของแก้วเซรามิค

 การสกรีน ราคางานสกรีนประเภทของแก้วเซรามิค

 

http://upload.siamza.com/file_upload/modify/110815/2240859.jpg

 

ยุคปัจจุบันการตกแต่งผลิตภัณฑ์เซรามิกมีเทคนิคการตกแต่งได้หลายทำนอง การใช้สติกเกอร์เซรามิคนั้นเป็นวิธีการหนึ่งที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมเซรามิก อันเนื่องมาจากความงามผุดผ่องและทันทีในการผลิต ซึ่งรูปลอกเซรามิคนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ สติ๊กเกอร์เซรามิกชนิดใต้เคลือบ รูปลอกเซรามิกสชนิดในเคลือบ และสติกเกอร์เซรามิกชนิดบนเคลือบ ซึ่งแต่ละประเภทล้วนมีความสวยงาม ประโยชน์ใช้สอย รวมทั้งวิธีการผลิตที่เคลื่อนคลาดกันไป
บทความนี้จะกล่าวเฉพาะสติ๊กเกอร์เซรามิกชนิดบนเคลือบ โดยเนื้อหาจะประกอบด้วยความรู้ทั่วไป เครื่องมือ และขั้นตอนการผลิต สำหรับเนื้อหานั้น ได้เรียบเรียงและอธิบาย โดยเน้นหลักการพื้นฐานของ Silk Screen Printing for Ceramic เป็นเนื้อหา ซึ่งจะใช้ภาพประกอบเพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจง่าย



วัตถุดิบที่ใช้ใรอุตสาหกรรมเซรามิกส์บางอย่างได้มาจากสินแร่ตามเทพนิรมิต เช่น ดินต่าง ๆ (clays) หินฟันม้า (feldspar) หินควอตรซ์ (quartz) และทรายทะเล เป็นต้น นอกจากนี้ วัตถุดิบบางอย่างได้มาจากการสะกัดจากแร่ตามธรรมชาติ และนำมาทำให้สะอาดด้วยขบวนการทางเคมี เช่น อะลูมินา (alumina) ซึ่งได้จาก แร่บ๊อกไซท์ (bauxite) ที่ได้จากการสังเคราะห์ เช่น แบเรียมทิตาเนต นอกจากนี้ก็มีพวก เฟอร์ไรท์ (ferrites) และอินทรียวัตถุบางชนิดที่ให้เป็นตัวช่วยในการขึ้นรูป ผลิตภัณฑ์เซรามิกส์สมัยใหม่ต้องการวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตมีเปอร์เซ็นต์ ความสาวสูง เพราะสิ่งสกปรกเพียงเล็กน้อยซึ่งอาจจะน้อยกว่า 1% ก็อาจมีอิทธิพลต่อโครงสร้างซึ่งเชื่อมโยงไปถึงคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ด้วย การผลิตเซรามิกส์กึ่งตัวนำ (Semiconducting ceramics) สิ่งสกปรกจะต้องมีน้อยกว่า 1 ใน 10 – 8 กล่าวโดยทั่วไปสิ่งสกปรกไม่เป็นที่ปรารถนาในทุกขั้นตอนของการผลิต             การควบคุมขนาดและรูปร่างของวัตถุดิบ ก็มีความสำคัญไม่น้อยกว่า การควบคุมความบริสุทธิ์ของวัตถุดิบ เพราะมันจะมีผลต่อการขึ้นรูป การเกิดการตอบสนองระหว่างกันของวัตถุดิบต่างๆ ในขณะที่เผาหรือระหว่างการทำการสังเคราะห์สารต่างๆ

 

 ประเภทของ เซรามิกส์


เราสามารถจัดประเภทผลิตภัณฑ์เซรามิกตามคุณภาพเนื้อของของซื้อของขาย ได้ดังนี้
1. พอร์ซเลน (Porcelain)เป็นเซรามิคที่มีเนื้อสีขาว เคลือบผิวเป็นมัน โปร่งแสงมีความแข็งแกร่งเหมือนแก้วไม่ดูดกลืนน้ำ เคาะมีเสียงดังกังวานองค์ประกอบของเนื้อดินที่ใช้คือ ดินขาว ดินเหนียว หรือบอลเคลย์ หินไชน่าสโตน แร่ฟันม้าและแร่ควอรตซ์ ผลผลิตพอร์ซเลนใช้ในงาน ได้หลายหลากทั้งในชีวิตประจำวันและงานอื่นๆ
ดินพอร์ชเลนมี 3 รูปแบบ เหตุฉะนี้
1.1 ดินพอร์ซเลนสามัญ Common Porcelain Body ใช้สำหรับงานหล่อ ที่มีอัตราการหล่อแบบที่ดี และคลอกแบบรีดักชั่น แต่ไม่โปร่งแสง สมควรสำหรับผลิตผลที่นำมาเขียนลายเบญจรงค์ หรือลายคราม

1.2 ดินอลูมิน่าพอร์ซเลน Alumina Porcelain Body ดินอลูมิน่าพอร์ซเลนเป็นดินที่ใช้กับงานเท่านั้นที่ต้องการความเสถียรชั่วกาลนานเช่นลูกถ้วยไฟฟ้า, ลูกบดและอิฐกรุ หรือสเปเซอร์ที่ต้องใช้แขวนสายไฟที่หนักเป็นตันได้โดยไม่เกิดข้อเสียหาย ดินในกลุ่มนี้จะมีสมบัติคลาดเคลื่อนกันไป

1.3 ดินพอร์ซเลนเนื้อขาว Soft Porcelain Body ดินพอร์ซเลนเนื้อขาวจะเบี่ยงเบนกันในเรื่องของสีหลังย่าง, ความโปร่งแสง, ความเหนียวของดินเพื่อให้เหมาะสมกับการเลือกใช้งาน มักใช้ทำ โคมไฟประดับ งานปั้น เช่นตุ๊กตาอ่าตกแต่ง จานชาม


2. โบนไชน่า (Bone China)เป็นเครื่องปั้นดินเผาชั้นดีที่สุดมีมูลค่ามีราคาสุดมีความขาวและเคลือบเป็นมันวาวมาก เนื้อละเอียด บางเบา และโปร่งมากมีความแข็งแกร่งดีมาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ได้แก่ ถ้วย ชาม เครื่องประดับเป็นต้น โดยทั่วไปโบนไชนามีส่วนผสมหลักคือ เถ้ากระดูกประมาณร้อยละ 50 โดยน้ำหนัก และมีดินขาวเคโอลิน (kaolin) กับไชนาสโตน (china stone) อีกประมาณร้อยละ 25 (ในสหรัฐอเมริกาผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ชื่อโบนไชนาได้ต้องมีเถ้ากระดูกเป็นองค์ประกอบอย่างน้อยร้อยละ 25) ซึ่งปริมาณเถ้ากระดูกเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้โบนไชนามีเนื้อละเอียดสีขาว มีลักษณะโปร่งแสง และมีความแข็งมาก เถ้ากระดูกมีองค์ประกอบหลักคือ แคลเซียมฟอสเฟต (calcium phosphate, Ca3(PO4)2) ได้จากการนำกระดูกสัตว์ต่างๆ เช่น กระดูกวัว ควาย ม้า มากำจัดเศษเนื้อ เอ็นที่ติดอยู่กับกระดูกออก และนำไปเผาที่อุณหภูมิสูงประมาณ 1,000 - 1,100 องศาเซลเซียส เมื่อเถ้ากระดูกเย็นตัวลงจึงนำมาบดให้เป็น

เนื้อโบนไชน่ามักจะโปร่งแสง

3. เอิร์ธเธินแวร์ (Earthenware)เป็นผลิตภัณฑ์เซรามิคเคลือบผิวทึบแสง มีความพรุนสามารถดูดซึมน้ำได้เนื้อละเอียดสีไม่ขาวมาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ ได้แก่ หม้อดินเผา คนโท กระถางต้นไม้กระเบื้องมุงหลังคา
3.1 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟสูง Earthenware Body เป็นดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟสูงเนื้อหยาบที่ขึ้นรูปงานปั้นได้ดี ทำผลิตภัณฑ์ประเภทกระถางและกระเบื้องลอน เผาที่อุณหภูมิ 1200-1230 ํC ออกซิเดชั่น
3.2 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟต่ำหรือดินโดโลไมท์ Dolomite Earthenware Body เป็นดินโดโลไมท์ที่มีสีขาว น้ำหนักเบา นิยมทำของประดับตกแต่งหรือชุดห้องน้ำมากกว่า ทำผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร
3.3 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์เนื้อแดงหรือดินเทอราคอตต้า Terra Cotta Body ดินนี้ขึ้นรูปงานปั้นได้ดี และเผาได้ตั้งแต่ 1000-1230 C สีหลังเผาจะเป็นสีส้ม และเข้มตามอุณหภูมิที่เผาสูงขึ้น นิยมทำชุดอาหารและของตกแต่งบ้าน
4. สโตนแวร์ (Stoneware) เป็นกลุ่มดินผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายในการเลือกใช้ ทั้งดินงานปั้น, งานหล่อ, งานอัดปั๊ม เหมาะกับผลิตภัณฑ์สำหรับปรุงอาหาร Cookware ลักษณะเด่นของผลิตภัณฑ์สโตนแวร์มักจะชิ้นหนาและหนัก เน้นความแข็งแรงทนทาน
4.1 ดินสโตนแวร์เนื้อขาว White Stoneware Body เป็นดินสโตนแวร์เนื้อขาว เน้นที่จะใช้งานเคลือบใสตกแต่งด้วยสีใต้เคลือบ SAA ใช้ทั้งงานหล่อ, งานปั้นและงานอัด เป็นดินสำหรับการขึ้นรูปแบบ Isostatic press เหมาtสำหรับผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร

4.2 ดินสโตนแวร์ธรรมดา Common Stoneware Body เนื่องจากเป็นดินที่มีการสไลด์ตัวได้ดี เหมาะสกหรับงานปั้น งานขึ้นรูป ใช้ทำผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหารชิ้นใหญ่ๆ


4.3 ดินสโตนแวร์สำหรับงานหล่อชิ้นใหญ่ Stoneware Body for casting เหมาะสำหรับทำ ชุดห้องน้ำ สุขภัณฑ์ กระเบื้องลอน และกรงลูกแก้ว

4.4 ดินสโตนแวร์เนื้อแดง Red Stoneware Body เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับงานปั้น ที่มีสีหลังเผาแดงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เผาที่อุณหภูมิ 1220-1230 ํC จะให้ได้ผลิตภัณฑ์ชุดอาหารที่มีความโดดเด่น

4.5 ดินสโตนแวร์สำหรับงานปั้นชิ้นใหญ่ Stoneware Body for Hand throwing
5. เทอราคอตตา (Terra Cotta)เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีดินเหนียวผิวดินเผาแล้วมักมีสีแดง เนื้อไม่แกร่ง มีความพรุนตัวสูง มักไม่เคลือบผิวนิยมเคลือบด้วยสีต่างๆ ส่วนมากผลิตเป็นวัสดุก่อสร้าง กระเบื้องบุผนัง
6. แก้ว (Glass) เป็นเซรามิกที่โปร่งแสง บางชนิดขุ่น ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ได้แก่ หลอดไฟ แก้วน้ำขวด กระจก

7. วัสดุทนไฟ (Refractories) เป็นวัสดุประเภทอนินทรีย์พวกดิน หิน แร่ธาตุที่หลอมตัวได้ยากในอุณหภูมิสูง ต้องทนอุณหภูมิได้อย่างน้อย 1,600 องศาเซลเซียสตัวอย่างได้แก่ อิฐทนไฟ อิฐฉนวนทนไฟ
======================================================

 ประเภทของ เซรามิกส์
ประเภทของเซรามิก

เราสามารถจำแนกผลิตภัณฑ์เซรามิกตามคุณภาพเนื้อของผลิตภัณฑ์ ได้ดังนี้
1. พอร์ซเลน (Porcelain)เป็นเซรามิกที่มีเนื้อสีขาว เคลือบผิวเป็นมัน โปร่งแสงมีความแข็งแกร่งเหมือนแก้วไม่ดูดซึมน้ำ เคาะมีเสียงดังกังวานส่วนผสมของเนื้อดินที่ใช้คือ ดินขาว ดินเหนียว หรือบอลเคลย์ หินไชน่าสโตน แร่ฟันม้าและแร่ควอรตซ์ ผลิตภัณฑ์พอร์ซเลนใช้ในงาน ได้หลากหลายทั้งในชีวิตประจำวันและงานอื่นๆ
ดินพอร์ชเลนมี 3 แบบ ดังนี้
1.1 ดินพอร์ซเลนทั่วไป Common Porcelain Body ใช้สำหรับงานหล่อ ที่มีอัตราการหล่อแบบที่ดี และเผาแบบรีดักชั่น แต่ไม่โปร่งแสง เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่นำมาเขียนลายเบญจรงค์ หรือลายคราม

1.2 ดินอลูมิน่าพอร์ซเลน Alumina Porcelain Body ดินอลูมิน่าพอร์ซเลนเป็นดินที่ใช้กับงานเฉพาะที่ต้องการความแข็งแรงทนทานเช่นลูกถ้วยไฟฟ้า, ลูกบดและอิฐกรุ หรือสเปเซอร์ที่ต้องใช้แขวนสายไฟที่หนักเป็นตันได้โดยไม่เกิดความเสียหาย ดินในกลุ่มนี้จะมีสมบัติแตกต่างกันไป

1.3 ดินพอร์ซเลนเนื้อขาว Soft Porcelain Body ดินพอร์ซเลนเนื้อขาวจะแตกต่างกันในเรื่องของสีหลังเผา, ความโปร่งแสง, ความเหนียวของดินเพื่อให้เหมาะสมกับการเลือกใช้งาน มักใช้ทำ โคมไฟประดับ งานปั้น เช่นตุ๊กตาประดับตกแต่ง จานชาม


2. โบนไชน่า (Bone China)เป็นเครื่องปั้นดินเผาชั้นดีที่สุดมีราคาแพงสุดมีความขาวและเคลือบเป็นมันวาวมาก เนื้อละเอียด บางเบา และโปร่งแสงมากมีความแข็งแกร่งดีมาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ได้แก่ ถ้วย ชาม เครื่องประดับเป็นต้น โดยทั่วไปโบนไชนามีส่วนผสมหลักคือ เถ้ากระดูกประมาณร้อยละ 50 โดยน้ำหนัก และมีดินขาวเคโอลิน (kaolin) กับไชนาสโตน (china stone) อีกประมาณร้อยละ 25 (ในสหรัฐอเมริกาผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ชื่อโบนไชนาได้ต้องมีเถ้ากระดูกเป็นองค์ประกอบอย่างน้อยร้อยละ 25) ซึ่งปริมาณเถ้ากระดูกเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้โบนไชนามีเนื้อละเอียดสีขาว มีลักษณะโปร่งแสง และมีความแข็งมาก เถ้ากระดูกมีองค์ประกอบหลักคือ แคลเซียมฟอสเฟต (calcium phosphate, Ca3(PO4)2) ได้จากการนำกระดูกสัตว์ต่างๆ เช่น กระดูกวัว ควาย ม้า มากำจัดเศษเนื้อ เอ็นที่ติดอยู่กับกระดูกออก และนำไปเผาที่อุณหภูมิสูงประมาณ 1,000 - 1,100 องศาเซลเซียส เมื่อเถ้ากระดูกเย็นตัวลงจึงนำมาบดให้เป็น

เนื้อโบนไชน่ามักจะโปร่งแสง

3. เอิร์ธเธินแวร์ (Earthenware)เป็นผลิตภัณฑ์เซรามิกเคลือบผิวทึบแสง มีความพรุนสามารถดูดซึมน้ำได้เนื้อละเอียดสีไม่ขาวมาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ ได้แก่ หม้อดินเผา คนโท กระถางต้นไม้กระเบื้องมุงหลังคา
3.1 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟสูง Earthenware Body เป็นดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟสูงเนื้อหยาบที่ขึ้นรูปงานปั้นได้ดี ทำผลิตภัณฑ์ประเภทกระถางและกระเบื้องลอน เผาที่อุณหภูมิ 1200-1230 ํC ออกซิเดชั่น
3.2 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟต่ำหรือดินโดโลไมท์ Dolomite Earthenware Body เป็นดินโดโลไมท์ที่มีสีขาว น้ำหนักเบา นิยมทำของประดับตกแต่งหรือชุดห้องน้ำมากกว่า ทำผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร
3.3 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์เนื้อแดงหรือดินเทอราคอตต้า Terra Cotta Body ดินนี้ขึ้นรูปงานปั้นได้ดี และเผาได้ตั้งแต่ 1000-1230 C สีหลังเผาจะเป็นสีส้ม และเข้มตามอุณหภูมิที่เผาสูงขึ้น นิยมทำชุดอาหารและของตกแต่งบ้าน
4. สโตนแวร์ (Stoneware) เป็นกลุ่มดินผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายในการเลือกใช้ ทั้งดินงานปั้น, งานหล่อ, งานอัดปั๊ม เหมาะกับผลิตภัณฑ์สำหรับปรุงอาหาร Cookware ลักษณะเด่นของผลิตภัณฑ์สโตนแวร์มักจะชิ้นหนาและหนัก เน้นความแข็งแรงทนทาน
4.1 ดินสโตนแวร์เนื้อขาว White Stoneware Body เป็นดินสโตนแวร์เนื้อขาว เน้นที่จะใช้งานเคลือบใสตกแต่งด้วยสีใต้เคลือบ SAA ใช้ทั้งงานหล่อ, งานปั้นและงานอัด เป็นดินสำหรับการขึ้นรูปแบบ Isostatic press เหมาtสำหรับผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร

4.2 ดินสโตนแวร์ธรรมดา Common Stoneware Body เนื่องจากเป็นดินที่มีการสไลด์ตัวได้ดี เหมาะสกหรับงานปั้น งานขึ้นรูป ใช้ทำผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหารชิ้นใหญ่ๆ


4.3 ดินสโตนแวร์สำหรับงานหล่อชิ้นใหญ่ Stoneware Body for casting เหมาะสำหรับทำ ชุดห้องน้ำ สุขภัณฑ์ กระเบื้องลอน และกรงลูกแก้ว

4.4 ดินสโตนแวร์เนื้อแดง Red Stoneware Body เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับงานปั้น ที่มีสีหลังเผาแดงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เผาที่อุณหภูมิ 1220-1230 ํC จะให้ได้ผลิตภัณฑ์ชุดอาหารที่มีความโดดเด่น

4.5 ดินสโตนแวร์สำหรับงานปั้นชิ้นใหญ่ Stoneware Body for Hand throwing
5. เทอราคอตตา (Terra Cotta)เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีดินเหนียวผิวดินเผาแล้วมักมีสีแดง เนื้อไม่แกร่ง มีความพรุนตัวสูง มักไม่เคลือบผิวนิยมเคลือบด้วยสีต่างๆ ส่วนมากผลิตเป็นวัสดุก่อสร้าง กระเบื้องบุผนัง
6. แก้ว (Glass) เป็นเซรามิกที่โปร่งแสง บางชนิดขุ่น ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ได้แก่ หลอดไฟ แก้วน้ำขวด กระจก

7. วัสดุทนไฟ (Refractories) เป็นวัสดุประเภทอนินทรีย์พวกดิน หิน แร่ธาตุที่หลอมตัวได้ยากในอุณหภูมิสูง ต้องทนอุณหภูมิได้อย่างน้อย 1,600 องศาเซลเซียสตัวอย่างได้แก่ อิฐทนไฟ อิฐฉนวนทนไฟ
======================================================

แก้วเซรามิค Credit : static.weloveshopping.com

 

http://upload.siamza.com/file_upload/modify/110815/2240860.jpg

 

http://upload.siamza.com/file_upload/modify/110815/2242143.png

 



เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.kaewceramic.com

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Ceramic Processing

Ceramic History

แก้วเซรามิค Credit : www.bonanzapremium.com

นักโบราณคดีได้ค้นพบเซรามิกของสามัญชนทำวันที่กลับไปอย่างน้อย 24,000 ปีก่อนคริสตกาล เซรามิกสเหล่านี้ถูกพบในสโลวาเกียและอยู่ในรูปแบบของสัตว์และมนุษย์ตุ๊กตา, แผ่นและลูก เซรามิกสเหล่านี้ที่ทำจากไขมันสัตว์และกระดูกผสมกับเถ้ากระดูกและวัสดุเหมือนดินที่ดี หลังจากที่ขึ้นรูปเซรามิกส์ถูกยิงที่อุณหภูมิระหว่าง 500-800 องศาเซลเซียสในโดมและเตาเผารูปเกือกม้าบางส่วนที่ขุดลงไปในดินที่มีผนังเหลือง ในขณะที่มันไม่ชัดเจนว่าเซรามิกเหล่านี้ถูกนำมาใช้ก็ไม่ได้คิดว่าจะได้รับประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง ใช้งานครั้งแรกของเรือเครื่องปั้นดินเผาทำงานคิดว่าจะเป็นใน 9,000 ปีก่อนคริสตกาล เรือเหล่านี้ถูกนำมาใช้ส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะถือและเก็บเมล็ดพืชและข้าวปลาอาหารอื่น ๆ

มันเป็นสมองที่ผลิตแก้วโบราณมีความข้องเกี่ยวอย่างใกล้ชิดกับการทำเครื่องปั้นดินเผาที่เจริญรุ่งเรืองในสังคมอียิปต์ประมาณ 8,000 ปีก่อนคริสตกาล ในขณะที่การยิงเครื่องปั้นดินเผาการปรากฏตัวของแคลเ​​ซียมออกไซด์ (CaO) ที่มีทรายรวมกับโซดาและร้อนของเตาเผาเครื่องปั้นดินเผาที่อาจมีผลในการเคลือบสีบนหม้อเซรามิค ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามันไม่ได้จนกว่า 1500 ปีก่อนคริสตกาลกระจกที่ถูกผลิตเป็นอิสระจากเซรามิกและแฟชั่นเข้ารายการแยกต่างหาก

ตั้งแต่สมัยเก่าเหล่านี้เทคโนโลยีและการใช้งานของเซรามิกส (รวมถึงแก้ว) ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรามักจะใช้สำหรับการรับบทบาทที่สำคัญที่เซรามิกได้เล่นในความคืบหน้าของชีวโลก ด้านล่างเป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของวิธีการเซรามิกที่มีความสำคัญต่อสังคม

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : แก้วเซรามิค

ที่มา : http://www.kaewceramic.com

การสกรีน ราคางานสกรีนประเภทของแก้วเซรามิค

 ลักษณะการสกรีน ราคางานสกรีนประเภทของแก้วเซรามิค

แก้วสกรีนโลโก้ Credit : ddpromote.com

 

http://upload.siamza.com/file_upload/modify/110815/2240860.jpg

 

ล่าสุดการตกแต่งผลิตภัณฑ์เซรามิกมีเทคนิคการตกแต่งได้หลายอย่าง การใช้สติกเกอร์เซรามิกนั้นเป็นวิธีการหนึ่งที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมเซรามิค อันเนื่องมาจากความพริ้งเพราและด่วนในการผลิต ซึ่งdecalเซรามิคนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ สติ๊กเกอร์เซรามิกชนิดใต้เคลือบ decalเซรามิกสชนิดในเคลือบ และสติกเกอร์เซรามิกชนิดบนเคลือบ ซึ่งแต่ละประเภทล้วนมีความสวยงาม ประโยชน์ใช้สอย รวมทั้งกรรมวิธีผลิตที่ผิดแผกแตกต่างกันไป
บทความนี้จะกล่าวเฉพาะสติ๊กเกอร์เซรามิกชนิดบนเคลือบ โดยเนื้อหาจะประกอบด้วยความรู้ทั่วไป อุปกรณ์ และขั้นตอนการผลิต สำหรับเนื้อหานั้น ได้เรียบเรียงและอธิบาย โดยเน้นหลักการพื้นฐานของ Silk Screen Printing for Ceramic เป็นจุดสำคัญ ซึ่งจะใช้ภาพประกอบเพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจง่าย



วัตถุดิบที่ใช้ใรอุตสาหกรรมเซรามิกส์บางอย่างได้มาจากสินแร่ตามธรรมดา เช่น ดินต่าง ๆ (clays) หินฟันม้า (feldspar) หินควอตรซ์ (quartz) และทรายทะเล เป็นต้น นอกจากนี้ วัตถุดิบบางอย่างได้มาจากการสะกัดจากสินแร่ตามธรรมชาติ และนำมาทำให้ใสด้วยขบวนการทางเคมี เช่น อะลูมินา (alumina) ซึ่งได้จาก แร่บ๊อกไซท์ (bauxite) ที่ได้จากการสังเคราะห์ เช่น แบเรียมทิตาเนต นอกจากนี้ก็มีพวก เฟอร์ไรท์ (ferrites) และสารอินทรีย์บางชนิดที่ให้เป็นตัวช่วยในการขึ้นรูป ผลิตภัณฑ์เซรามิกส์สมัยใหม่ต้องการวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตมีเปอร์เซ็นต์ ความบริสุทธิ์ผุดผ่องสูง เพราะสิ่งสกปรกเพียงเล็กน้อยซึ่งอาจจะน้อยกว่า 1% ก็อาจมีอิทธิพลต่อโครงสร้างซึ่งเชื่อมโยงไปถึงคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ด้วย การผลิตเซรามิกส์กึ่งตัวนำ (Semiconducting ceramics) สิ่งสกปรกจะต้องมีน้อยกว่า 1 ใน 10 – 8 กล่าวโดยทั่วไปสิ่งสกปรกไม่เป็นที่ปรารถนาในทุกขั้นตอนของการผลิต             การควบคุมขนาดและรูปร่างของวัตถุดิบ ก็มีความสำคัญไม่น้อยกว่า การควบคุมความบริสุทธิ์ของวัตถุดิบ เพราะมันจะมีผลต่อการขึ้นรูป การเกิดปฏิกิริยาระหว่างกันของวัตถุดิบต่างๆ ในขณะที่เผาหรือระหว่างการทำการสังเคราะห์สารต่างๆ

 

 ประเภทของ เซรามิกส์


เราสามารถแยกผลิตภัณฑ์เซรามิคตามคุณภาพเนื้อของผลเก็บเกี่ยว ได้ดังนี้
1. พอร์ซเลน (Porcelain)เป็นเซรามิกส์ที่มีเนื้อสีขาว เคลือบผิวเป็นมัน โปร่งแสงมีความแข็งแกร่งเหมือนแก้วไม่ซึมซับน้ำ เคาะมีเสียงดังกังวานส่วนผสมของเนื้อดินที่ใช้คือ ดินขาว ดินเหนียว หรือบอลเคลย์ หินไชน่าสโตน แร่ฟันม้าและแร่ควอรตซ์ ผลิตผลพอร์ซเลนใช้ในงาน ได้หลากหลายทั้งในชีวิตประจำวันและงานอื่นๆ
ดินพอร์ชเลนมี 3 รูปร่าง ด้วยเหตุนี้
1.1 ดินพอร์ซเลนสาธารณะ Common Porcelain Body ใช้สำหรับงานหล่อ ที่มีอัตราการหล่อแบบที่ดี และคลอกแบบรีดักชั่น แต่ไม่โปร่งแสง ถูกกันสำหรับผลิตภัณฑ์ที่นำมาเขียนลายเบญจรงค์ หรือลายคราม

1.2 ดินอลูมิน่าพอร์ซเลน Alumina Porcelain Body ดินอลูมิน่าพอร์ซเลนเป็นดินที่ใช้กับงานเฉพาะที่ต้องการความแกล้วกล้าหัวเห็ดเช่นลูกถ้วยไฟฟ้า, ลูกบดและอิฐกรุ หรือสเปเซอร์ที่ต้องใช้แขวนสายไฟที่หนักเป็นตันได้โดยไม่เกิดความหายนะ ดินในกลุ่มนี้จะมีสมบัติแตกต่างกันไป

1.3 ดินพอร์ซเลนเนื้อขาว Soft Porcelain Body ดินพอร์ซเลนเนื้อขาวจะแตกต่างกันในเรื่องของสีหลังปิ้ง, ความโปร่งแสง, ความเหนียวของดินเพื่อให้เหมาะสมกับการเลือกใช้งาน มักใช้ทำ โคมไฟประดับ งานปั้น เช่นตุ๊กตาประดับตกแต่ง จานชาม


2. โบนไชน่า (Bone China)เป็นเครื่องปั้นดินเผาชั้นดีที่สุดมีสนนราคามีราคาสุดมีความขาวและเคลือบเป็นมันวาวมาก เนื้อละเอียด บางเบา และโปร่งแสงมากมีความแข็งแกร่งดีมาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ได้แก่ ถ้วย ชาม เครื่องประดับเป็นต้น โดยทั่วไปโบนไชนามีส่วนผสมหลักคือ เถ้ากระดูกประมาณร้อยละ 50 โดยน้ำหนัก และมีดินขาวเคโอลิน (kaolin) กับไชนาสโตน (china stone) อีกประมาณร้อยละ 25 (ในสหรัฐอเมริกาผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ชื่อโบนไชนาได้ต้องมีเถ้ากระดูกเป็นองค์ประกอบอย่างน้อยร้อยละ 25) ซึ่งปริมาณเถ้ากระดูกเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้โบนไชนามีเนื้อละเอียดสีขาว มีลักษณะโปร่งแสง และมีความแข็งมาก เถ้ากระดูกมีองค์ประกอบหลักคือ แคลเซียมฟอสเฟต (calcium phosphate, Ca3(PO4)2) ได้จากการนำกระดูกสัตว์ต่างๆ เช่น กระดูกวัว ควาย ม้า มากำจัดเศษเนื้อ เอ็นที่ติดอยู่กับกระดูกออก และนำไปเผาที่อุณหภูมิสูงประมาณ 1,000 - 1,100 องศาเซลเซียส เมื่อเถ้ากระดูกเย็นตัวลงจึงนำมาบดให้เป็น

เนื้อโบนไชน่ามักจะโปร่งแสง

3. เอิร์ธเธินแวร์ (Earthenware)เป็นผลิตภัณฑ์เซรามิกส์เคลือบผิวทึบแสง มีความพรุนสามารถดูดซึมน้ำได้เนื้อละเอียดสีไม่ขาวมาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ ได้แก่ หม้อดินเผา คนโท กระถางต้นไม้กระเบื้องมุงหลังคา
3.1 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟสูง Earthenware Body เป็นดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟสูงเนื้อหยาบที่ขึ้นรูปงานปั้นได้ดี ทำผลิตภัณฑ์ประเภทกระถางและกระเบื้องลอน เผาที่อุณหภูมิ 1200-1230 ํC ออกซิเดชั่น
3.2 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟต่ำหรือดินโดโลไมท์ Dolomite Earthenware Body เป็นดินโดโลไมท์ที่มีสีขาว น้ำหนักเบา นิยมทำของประดับตกแต่งหรือชุดห้องน้ำมากกว่า ทำผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร
3.3 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์เนื้อแดงหรือดินเทอราคอตต้า Terra Cotta Body ดินนี้ขึ้นรูปงานปั้นได้ดี และเผาได้ตั้งแต่ 1000-1230 C สีหลังเผาจะเป็นสีส้ม และเข้มตามอุณหภูมิที่เผาสูงขึ้น นิยมทำชุดอาหารและของตกแต่งบ้าน
4. สโตนแวร์ (Stoneware) เป็นกลุ่มดินผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายในการเลือกใช้ ทั้งดินงานปั้น, งานหล่อ, งานอัดปั๊ม เหมาะกับผลิตภัณฑ์สำหรับปรุงอาหาร Cookware ลักษณะเด่นของผลิตภัณฑ์สโตนแวร์มักจะชิ้นหนาและหนัก เน้นความแข็งแรงทนทาน
4.1 ดินสโตนแวร์เนื้อขาว White Stoneware Body เป็นดินสโตนแวร์เนื้อขาว เน้นที่จะใช้งานเคลือบใสตกแต่งด้วยสีใต้เคลือบ SAA ใช้ทั้งงานหล่อ, งานปั้นและงานอัด เป็นดินสำหรับการขึ้นรูปแบบ Isostatic press เหมาtสำหรับผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร

4.2 ดินสโตนแวร์ธรรมดา Common Stoneware Body เนื่องจากเป็นดินที่มีการสไลด์ตัวได้ดี เหมาะสกหรับงานปั้น งานขึ้นรูป ใช้ทำผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหารชิ้นใหญ่ๆ


4.3 ดินสโตนแวร์สำหรับงานหล่อชิ้นใหญ่ Stoneware Body for casting เหมาะสำหรับทำ ชุดห้องน้ำ สุขภัณฑ์ กระเบื้องลอน และกรงลูกแก้ว

4.4 ดินสโตนแวร์เนื้อแดง Red Stoneware Body เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับงานปั้น ที่มีสีหลังเผาแดงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เผาที่อุณหภูมิ 1220-1230 ํC จะให้ได้ผลิตภัณฑ์ชุดอาหารที่มีความโดดเด่น

4.5 ดินสโตนแวร์สำหรับงานปั้นชิ้นใหญ่ Stoneware Body for Hand throwing
5. เทอราคอตตา (Terra Cotta)เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีดินเหนียวผิวดินเผาแล้วมักมีสีแดง เนื้อไม่แกร่ง มีความพรุนตัวสูง มักไม่เคลือบผิวนิยมเคลือบด้วยสีต่างๆ ส่วนมากผลิตเป็นวัสดุก่อสร้าง กระเบื้องบุผนัง
6. แก้ว (Glass) เป็นเซรามิกที่โปร่งแสง บางชนิดขุ่น ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ได้แก่ หลอดไฟ แก้วน้ำขวด กระจก

7. วัสดุทนไฟ (Refractories) เป็นวัสดุประเภทอนินทรีย์พวกดิน หิน แร่ธาตุที่หลอมตัวได้ยากในอุณหภูมิสูง ต้องทนอุณหภูมิได้อย่างน้อย 1,600 องศาเซลเซียสตัวอย่างได้แก่ อิฐทนไฟ อิฐฉนวนทนไฟ
======================================================

 ประเภทของ เซรามิกส์
ประเภทของเซรามิก

เราสามารถจำแนกผลิตภัณฑ์เซรามิกตามคุณภาพเนื้อของผลิตภัณฑ์ ได้ดังนี้
1. พอร์ซเลน (Porcelain)เป็นเซรามิกที่มีเนื้อสีขาว เคลือบผิวเป็นมัน โปร่งแสงมีความแข็งแกร่งเหมือนแก้วไม่ดูดซึมน้ำ เคาะมีเสียงดังกังวานส่วนผสมของเนื้อดินที่ใช้คือ ดินขาว ดินเหนียว หรือบอลเคลย์ หินไชน่าสโตน แร่ฟันม้าและแร่ควอรตซ์ ผลิตภัณฑ์พอร์ซเลนใช้ในงาน ได้หลากหลายทั้งในชีวิตประจำวันและงานอื่นๆ
ดินพอร์ชเลนมี 3 แบบ ดังนี้
1.1 ดินพอร์ซเลนทั่วไป Common Porcelain Body ใช้สำหรับงานหล่อ ที่มีอัตราการหล่อแบบที่ดี และเผาแบบรีดักชั่น แต่ไม่โปร่งแสง เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่นำมาเขียนลายเบญจรงค์ หรือลายคราม

1.2 ดินอลูมิน่าพอร์ซเลน Alumina Porcelain Body ดินอลูมิน่าพอร์ซเลนเป็นดินที่ใช้กับงานเฉพาะที่ต้องการความแข็งแรงทนทานเช่นลูกถ้วยไฟฟ้า, ลูกบดและอิฐกรุ หรือสเปเซอร์ที่ต้องใช้แขวนสายไฟที่หนักเป็นตันได้โดยไม่เกิดความเสียหาย ดินในกลุ่มนี้จะมีสมบัติแตกต่างกันไป

1.3 ดินพอร์ซเลนเนื้อขาว Soft Porcelain Body ดินพอร์ซเลนเนื้อขาวจะแตกต่างกันในเรื่องของสีหลังเผา, ความโปร่งแสง, ความเหนียวของดินเพื่อให้เหมาะสมกับการเลือกใช้งาน มักใช้ทำ โคมไฟประดับ งานปั้น เช่นตุ๊กตาประดับตกแต่ง จานชาม


2. โบนไชน่า (Bone China)เป็นเครื่องปั้นดินเผาชั้นดีที่สุดมีราคาแพงสุดมีความขาวและเคลือบเป็นมันวาวมาก เนื้อละเอียด บางเบา และโปร่งแสงมากมีความแข็งแกร่งดีมาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ได้แก่ ถ้วย ชาม เครื่องประดับเป็นต้น โดยทั่วไปโบนไชนามีส่วนผสมหลักคือ เถ้ากระดูกประมาณร้อยละ 50 โดยน้ำหนัก และมีดินขาวเคโอลิน (kaolin) กับไชนาสโตน (china stone) อีกประมาณร้อยละ 25 (ในสหรัฐอเมริกาผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ชื่อโบนไชนาได้ต้องมีเถ้ากระดูกเป็นองค์ประกอบอย่างน้อยร้อยละ 25) ซึ่งปริมาณเถ้ากระดูกเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้โบนไชนามีเนื้อละเอียดสีขาว มีลักษณะโปร่งแสง และมีความแข็งมาก เถ้ากระดูกมีองค์ประกอบหลักคือ แคลเซียมฟอสเฟต (calcium phosphate, Ca3(PO4)2) ได้จากการนำกระดูกสัตว์ต่างๆ เช่น กระดูกวัว ควาย ม้า มากำจัดเศษเนื้อ เอ็นที่ติดอยู่กับกระดูกออก และนำไปเผาที่อุณหภูมิสูงประมาณ 1,000 - 1,100 องศาเซลเซียส เมื่อเถ้ากระดูกเย็นตัวลงจึงนำมาบดให้เป็น

เนื้อโบนไชน่ามักจะโปร่งแสง

3. เอิร์ธเธินแวร์ (Earthenware)เป็นผลิตภัณฑ์เซรามิกเคลือบผิวทึบแสง มีความพรุนสามารถดูดซึมน้ำได้เนื้อละเอียดสีไม่ขาวมาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ ได้แก่ หม้อดินเผา คนโท กระถางต้นไม้กระเบื้องมุงหลังคา
3.1 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟสูง Earthenware Body เป็นดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟสูงเนื้อหยาบที่ขึ้นรูปงานปั้นได้ดี ทำผลิตภัณฑ์ประเภทกระถางและกระเบื้องลอน เผาที่อุณหภูมิ 1200-1230 ํC ออกซิเดชั่น
3.2 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟต่ำหรือดินโดโลไมท์ Dolomite Earthenware Body เป็นดินโดโลไมท์ที่มีสีขาว น้ำหนักเบา นิยมทำของประดับตกแต่งหรือชุดห้องน้ำมากกว่า ทำผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร
3.3 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์เนื้อแดงหรือดินเทอราคอตต้า Terra Cotta Body ดินนี้ขึ้นรูปงานปั้นได้ดี และเผาได้ตั้งแต่ 1000-1230 C สีหลังเผาจะเป็นสีส้ม และเข้มตามอุณหภูมิที่เผาสูงขึ้น นิยมทำชุดอาหารและของตกแต่งบ้าน
4. สโตนแวร์ (Stoneware) เป็นกลุ่มดินผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายในการเลือกใช้ ทั้งดินงานปั้น, งานหล่อ, งานอัดปั๊ม เหมาะกับผลิตภัณฑ์สำหรับปรุงอาหาร Cookware ลักษณะเด่นของผลิตภัณฑ์สโตนแวร์มักจะชิ้นหนาและหนัก เน้นความแข็งแรงทนทาน
4.1 ดินสโตนแวร์เนื้อขาว White Stoneware Body เป็นดินสโตนแวร์เนื้อขาว เน้นที่จะใช้งานเคลือบใสตกแต่งด้วยสีใต้เคลือบ SAA ใช้ทั้งงานหล่อ, งานปั้นและงานอัด เป็นดินสำหรับการขึ้นรูปแบบ Isostatic press เหมาtสำหรับผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร

4.2 ดินสโตนแวร์ธรรมดา Common Stoneware Body เนื่องจากเป็นดินที่มีการสไลด์ตัวได้ดี เหมาะสกหรับงานปั้น งานขึ้นรูป ใช้ทำผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหารชิ้นใหญ่ๆ


4.3 ดินสโตนแวร์สำหรับงานหล่อชิ้นใหญ่ Stoneware Body for casting เหมาะสำหรับทำ ชุดห้องน้ำ สุขภัณฑ์ กระเบื้องลอน และกรงลูกแก้ว

4.4 ดินสโตนแวร์เนื้อแดง Red Stoneware Body เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับงานปั้น ที่มีสีหลังเผาแดงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เผาที่อุณหภูมิ 1220-1230 ํC จะให้ได้ผลิตภัณฑ์ชุดอาหารที่มีความโดดเด่น

4.5 ดินสโตนแวร์สำหรับงานปั้นชิ้นใหญ่ Stoneware Body for Hand throwing
5. เทอราคอตตา (Terra Cotta)เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีดินเหนียวผิวดินเผาแล้วมักมีสีแดง เนื้อไม่แกร่ง มีความพรุนตัวสูง มักไม่เคลือบผิวนิยมเคลือบด้วยสีต่างๆ ส่วนมากผลิตเป็นวัสดุก่อสร้าง กระเบื้องบุผนัง
6. แก้ว (Glass) เป็นเซรามิกที่โปร่งแสง บางชนิดขุ่น ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ได้แก่ หลอดไฟ แก้วน้ำขวด กระจก

7. วัสดุทนไฟ (Refractories) เป็นวัสดุประเภทอนินทรีย์พวกดิน หิน แร่ธาตุที่หลอมตัวได้ยากในอุณหภูมิสูง ต้องทนอุณหภูมิได้อย่างน้อย 1,600 องศาเซลเซียสตัวอย่างได้แก่ อิฐทนไฟ อิฐฉนวนทนไฟ
======================================================

 

http://upload.siamza.com/file_upload/modify/110815/2240859.jpg

 

http://upload.siamza.com/file_upload/modify/110815/2242143.png

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : แก้วสกรีนโลโก้

เครดิต : http://www.kaewceramic.com

วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Ceramic Processing

Ceramic History

นักโบราณคดีได้ค้นพบเซรามิกส์ของคนทำวันที่กลับไปอย่างน้อย 24,000 ปีก่อนคริสตกาล เซรามิกสเหล่านี้ถูกพบในสโลวาเกียและอยู่ในรูปแบบของสัตว์และมนุษย์ตุ๊กตา, แผ่นและลูก เซรามิกสเหล่านี้ที่ทำจากไขมันสัตว์และกระดูกผสมกับเถ้ากระดูกและวัสดุเหมือนดินที่ดี หลังจากที่ขึ้นรูปเซรามิกส์ถูกยิงที่อุณหภูมิระหว่าง 500-800 องศาเซลเซียสในโดมและเตาเผารูปเกือกม้าบางส่วนที่ขุดลงไปในดินที่มีผนังเหลือง ในขณะที่มันไม่ชัดเจนว่าเซรามิกเหล่านี้ถูกนำมาใช้ก็ไม่ได้คิดว่าจะได้รับประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง ใช้งานครั้งแรกของเรือเครื่องปั้นดินเผาทำงานคิดว่าจะเป็นใน 9,000 ปีก่อนคริสตกาล เรือเหล่านี้ถูกนำมาใช้ส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะถือและเก็บเมล็ดพืชและอาหารอื่น ๆ

มันเป็นปัญญาที่ผลิตแก้วโบราณมีสัมพันธไมตรีอย่างใกล้ชิดกับการทำเครื่องปั้นดินเผาที่เจริญรุ่งเรืองในสังคมอียิปต์ประมาณ 8,000 ปีก่อนคริสตกาล ในขณะที่การยิงเครื่องปั้นดินเผาการปรากฏตัวของแคลเ​​ซียมออกไซด์ (CaO) ที่มีทรายรวมกับโซดาและร้อนของเตาเผาเครื่องปั้นดินเผาที่อาจมีผลในการเคลือบสีบนหม้อเซรามิค ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามันไม่ได้จนกว่า 1500 ปีก่อนคริสตกาลกระจกที่ถูกผลิตเป็นอิสระจากเซรามิกและแฟชั่นเข้ารายการแยกต่างหาก

ตั้งแต่อดีตเหล่านี้เทคโนโลยีและการใช้งานของเซรามิค (รวมถึงแก้ว) ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรามักจะใช้สำหรับการรับบทบาทที่สำคัญที่เซรามิกได้เล่นในความคืบหน้าของมนุษยชาติ ด้านล่างเป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของวิธีการเซรามิกที่มีความสำคัญต่อสังคม

แก้วสกรีนโลโก้ Credit : www.evolution-trade.com คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : แก้วสกรีนโลโก้

ที่มา : http://www.kaewceramic.com

รูปแบบการสกรีน ราคางานสกรีนประเภทของแก้วเซรามิค

 ลักษณะการสกรีน ราคางานสกรีนประเภทของแก้วเซรามิค

 

http://upload.siamza.com/file_upload/modify/110815/2240859.jpg

 

ประจุบันการตกแต่งผลิตภัณฑ์เซรามิกมีเทคนิคการตกแต่งได้หลายวิธี การใช้รูปลอกเซรามิคนั้นเป็นกระบวนการหนึ่งที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมเซรามิกส อันเนื่องมาจากความเป็นระเบียบและในทันทีในการผลิต ซึ่งรูปลอกเซรามิกนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ สติ๊กเกอร์เซรามิคชนิดใต้เคลือบ decalเซรามิกชนิดในเคลือบ และdecalเซรามิกชนิดบนเคลือบ ซึ่งแต่ละประเภทล้วนมีความสวยงาม ประโยชน์ใช้สอย รวมทั้งขั้นตอนเกิดที่ต่างกันไป
บทความนี้จะกล่าวเฉพาะสติกเกอร์เซรามิกชนิดบนเคลือบ โดยเนื้อหาจะประกอบด้วยความรู้ทั่วไป วัสดุอุปกรณ์ และขั้นตอนการผลิต สำหรับเนื้อหานั้น ได้เรียบเรียงและอธิบาย โดยเน้นหลักการพื้นฐานของ Silk Screen Printing for Ceramic เป็นใจความ ซึ่งจะใช้ภาพประกอบเพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจง่าย



วัตถุดิบที่ใช้ใรอุตสาหกรรมเซรามิกส์บางอย่างได้มาจากสินแร่ตามธรรมชาติ เช่น ดินต่าง ๆ (clays) หินฟันม้า (feldspar) หินควอตรซ์ (quartz) และทรายทะเล เป็นต้น นอกจากนี้ วัตถุดิบบางอย่างได้มาจากการสะกัดจากแร่ตามธรรมชาติ และนำมาทำให้หมดจดด้วยขบวนการทางเคมี เช่น อะลูมินา (alumina) ซึ่งได้จาก แร่บ๊อกไซท์ (bauxite) ที่ได้จากการสังเคราะห์ เช่น แบเรียมทิตาเนต นอกจากนี้ก็มีพวก เฟอร์ไรท์ (ferrites) และอินทรียวัตถุบางชนิดที่ให้เป็นตัวช่วยในการขึ้นรูป ผลิตภัณฑ์เซรามิกส์สมัยใหม่ต้องการวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตมีเปอร์เซ็นต์ ความบริสุทธิ์ผุดผ่องสูง เพราะสิ่งสกปรกเพียงเล็กน้อยซึ่งอาจจะน้อยกว่า 1% ก็อาจมีอิทธิพลต่อโครงสร้างซึ่งเชื่อมโยงไปถึงคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ด้วย การผลิตเซรามิกส์กึ่งตัวนำ (Semiconducting ceramics) สิ่งสกปรกจะต้องมีน้อยกว่า 1 ใน 10 – 8 กล่าวโดยทั่วไปสิ่งสกปรกไม่เป็นที่ปรารถนาในทุกขั้นตอนของการผลิต             การควบคุมขนาดและรูปร่างของวัตถุดิบ ก็มีความสำคัญไม่น้อยกว่า การควบคุมความบริสุทธิ์ของวัตถุดิบ เพราะมันจะมีผลต่อการขึ้นรูป การเกิดการตอบรับระหว่างกันของวัตถุดิบต่างๆ ในขณะที่เผาหรือระหว่างการทำการสังเคราะห์สารต่างๆ

 

 ประเภทของ เซรามิกส์


เราสามารถแบ่งผลิตภัณฑ์เซรามิกตามคุณภาพเนื้อของผลิตผล ได้ดังนี้
1. พอร์ซเลน (Porcelain)เป็นเซรามิกที่มีเนื้อสีขาว เคลือบผิวเป็นมัน โปร่งแสงมีความแกร่งเหมือนแก้วไม่ซึมซับน้ำ เคาะมีเสียงดังกังวานส่วนประกอบของเนื้อดินที่ใช้คือ ดินขาว ดินเหนียว หรือบอลเคลย์ หินไชน่าสโตน แร่ฟันม้าและแร่ควอรตซ์ ของซื้อของขายพอร์ซเลนใช้ในงาน ได้นาเนกทั้งในชีวิตประจำวันและงานอื่นๆ
ดินพอร์ชเลนมี 3 จำพวก อย่างนี้
1.1 ดินพอร์ซเลนธารณะ Common Porcelain Body ใช้สำหรับงานหล่อ ที่มีอัตราการหล่อแบบที่ดี และจี่แบบรีดักชั่น แต่ไม่โปร่งแสง พอเหมาะสำหรับผลิตผลที่นำมาเขียนลายเบญจรงค์ หรือลายคราม

1.2 ดินอลูมิน่าพอร์ซเลน Alumina Porcelain Body ดินอลูมิน่าพอร์ซเลนเป็นดินที่ใช้กับงานเพ่งตรงที่ต้องการความทนอยู่ยืดเช่นลูกถ้วยไฟฟ้า, ลูกบดและอิฐกรุ หรือสเปเซอร์ที่ต้องใช้แขวนสายไฟที่หนักเป็นตันได้โดยไม่เกิดความย่อยยับ ดินในกลุ่มนี้จะมีสมบัติแปลกกันไป

1.3 ดินพอร์ซเลนเนื้อขาว Soft Porcelain Body ดินพอร์ซเลนเนื้อขาวจะฉีกแนวกันในเรื่องของสีหลังเผา, ความโปร่งแสง, ความเหนียวของดินเพื่อให้เหมาะสมกับการเลือกใช้งาน มักใช้ทำ โคมไฟประดับ งานปั้น เช่นตุ๊กตาประดับประดาตกแต่ง จานชาม


2. โบนไชน่า (Bone China)เป็นเครื่องปั้นดินเผาชั้นดีที่สุดมีมูลค่าแพงสุดมีความขาวและเคลือบเป็นมันวาวมาก เนื้อละเอียด บางเบา และโปร่งแสงมากมีความแข็งแกร่งดีมาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ได้แก่ ถ้วย ชาม เครื่องประดับเป็นต้น โดยทั่วไปโบนไชนามีส่วนผสมหลักคือ เถ้ากระดูกประมาณร้อยละ 50 โดยน้ำหนัก และมีดินขาวเคโอลิน (kaolin) กับไชนาสโตน (china stone) อีกประมาณร้อยละ 25 (ในสหรัฐอเมริกาผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ชื่อโบนไชนาได้ต้องมีเถ้ากระดูกเป็นองค์ประกอบอย่างน้อยร้อยละ 25) ซึ่งปริมาณเถ้ากระดูกเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้โบนไชนามีเนื้อละเอียดสีขาว มีลักษณะโปร่งแสง และมีความแข็งมาก เถ้ากระดูกมีองค์ประกอบหลักคือ แคลเซียมฟอสเฟต (calcium phosphate, Ca3(PO4)2) ได้จากการนำกระดูกสัตว์ต่างๆ เช่น กระดูกวัว ควาย ม้า มากำจัดเศษเนื้อ เอ็นที่ติดอยู่กับกระดูกออก และนำไปเผาที่อุณหภูมิสูงประมาณ 1,000 - 1,100 องศาเซลเซียส เมื่อเถ้ากระดูกเย็นตัวลงจึงนำมาบดให้เป็น

เนื้อโบนไชน่ามักจะโปร่งแสง

3. เอิร์ธเธินแวร์ (Earthenware)เป็นผลิตภัณฑ์เซรามิกเคลือบผิวทึบแสง มีความพรุนสามารถดูดซึมน้ำได้เนื้อละเอียดสีไม่ขาวมาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ ได้แก่ หม้อดินเผา คนโท กระถางต้นไม้กระเบื้องมุงหลังคา
3.1 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟสูง Earthenware Body เป็นดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟสูงเนื้อหยาบที่ขึ้นรูปงานปั้นได้ดี ทำผลิตภัณฑ์ประเภทกระถางและกระเบื้องลอน เผาที่อุณหภูมิ 1200-1230 ํC ออกซิเดชั่น
3.2 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟต่ำหรือดินโดโลไมท์ Dolomite Earthenware Body เป็นดินโดโลไมท์ที่มีสีขาว น้ำหนักเบา นิยมทำของประดับตกแต่งหรือชุดห้องน้ำมากกว่า ทำผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร
3.3 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์เนื้อแดงหรือดินเทอราคอตต้า Terra Cotta Body ดินนี้ขึ้นรูปงานปั้นได้ดี และเผาได้ตั้งแต่ 1000-1230 C สีหลังเผาจะเป็นสีส้ม และเข้มตามอุณหภูมิที่เผาสูงขึ้น นิยมทำชุดอาหารและของตกแต่งบ้าน
4. สโตนแวร์ (Stoneware) เป็นกลุ่มดินผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายในการเลือกใช้ ทั้งดินงานปั้น, งานหล่อ, งานอัดปั๊ม เหมาะกับผลิตภัณฑ์สำหรับปรุงอาหาร Cookware ลักษณะเด่นของผลิตภัณฑ์สโตนแวร์มักจะชิ้นหนาและหนัก เน้นความแข็งแรงทนทาน
4.1 ดินสโตนแวร์เนื้อขาว White Stoneware Body เป็นดินสโตนแวร์เนื้อขาว เน้นที่จะใช้งานเคลือบใสตกแต่งด้วยสีใต้เคลือบ SAA ใช้ทั้งงานหล่อ, งานปั้นและงานอัด เป็นดินสำหรับการขึ้นรูปแบบ Isostatic press เหมาtสำหรับผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร

4.2 ดินสโตนแวร์ธรรมดา Common Stoneware Body เนื่องจากเป็นดินที่มีการสไลด์ตัวได้ดี เหมาะสกหรับงานปั้น งานขึ้นรูป ใช้ทำผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหารชิ้นใหญ่ๆ


4.3 ดินสโตนแวร์สำหรับงานหล่อชิ้นใหญ่ Stoneware Body for casting เหมาะสำหรับทำ ชุดห้องน้ำ สุขภัณฑ์ กระเบื้องลอน และกรงลูกแก้ว

4.4 ดินสโตนแวร์เนื้อแดง Red Stoneware Body เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับงานปั้น ที่มีสีหลังเผาแดงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เผาที่อุณหภูมิ 1220-1230 ํC จะให้ได้ผลิตภัณฑ์ชุดอาหารที่มีความโดดเด่น

4.5 ดินสโตนแวร์สำหรับงานปั้นชิ้นใหญ่ Stoneware Body for Hand throwing
5. เทอราคอตตา (Terra Cotta)เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีดินเหนียวผิวดินเผาแล้วมักมีสีแดง เนื้อไม่แกร่ง มีความพรุนตัวสูง มักไม่เคลือบผิวนิยมเคลือบด้วยสีต่างๆ ส่วนมากผลิตเป็นวัสดุก่อสร้าง กระเบื้องบุผนัง
6. แก้ว (Glass) เป็นเซรามิกที่โปร่งแสง บางชนิดขุ่น ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ได้แก่ หลอดไฟ แก้วน้ำขวด กระจก

7. วัสดุทนไฟ (Refractories) เป็นวัสดุประเภทอนินทรีย์พวกดิน หิน แร่ธาตุที่หลอมตัวได้ยากในอุณหภูมิสูง ต้องทนอุณหภูมิได้อย่างน้อย 1,600 องศาเซลเซียสตัวอย่างได้แก่ อิฐทนไฟ อิฐฉนวนทนไฟ
======================================================

 ประเภทของ เซรามิกส์
ประเภทของเซรามิก

เราสามารถจำแนกผลิตภัณฑ์เซรามิกตามคุณภาพเนื้อของผลิตภัณฑ์ ได้ดังนี้
1. พอร์ซเลน (Porcelain)เป็นเซรามิกที่มีเนื้อสีขาว เคลือบผิวเป็นมัน โปร่งแสงมีความแข็งแกร่งเหมือนแก้วไม่ดูดซึมน้ำ เคาะมีเสียงดังกังวานส่วนผสมของเนื้อดินที่ใช้คือ ดินขาว ดินเหนียว หรือบอลเคลย์ หินไชน่าสโตน แร่ฟันม้าและแร่ควอรตซ์ ผลิตภัณฑ์พอร์ซเลนใช้ในงาน ได้หลากหลายทั้งในชีวิตประจำวันและงานอื่นๆ
ดินพอร์ชเลนมี 3 แบบ ดังนี้
1.1 ดินพอร์ซเลนทั่วไป Common Porcelain Body ใช้สำหรับงานหล่อ ที่มีอัตราการหล่อแบบที่ดี และเผาแบบรีดักชั่น แต่ไม่โปร่งแสง เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่นำมาเขียนลายเบญจรงค์ หรือลายคราม

1.2 ดินอลูมิน่าพอร์ซเลน Alumina Porcelain Body ดินอลูมิน่าพอร์ซเลนเป็นดินที่ใช้กับงานเฉพาะที่ต้องการความแข็งแรงทนทานเช่นลูกถ้วยไฟฟ้า, ลูกบดและอิฐกรุ หรือสเปเซอร์ที่ต้องใช้แขวนสายไฟที่หนักเป็นตันได้โดยไม่เกิดความเสียหาย ดินในกลุ่มนี้จะมีสมบัติแตกต่างกันไป

1.3 ดินพอร์ซเลนเนื้อขาว Soft Porcelain Body ดินพอร์ซเลนเนื้อขาวจะแตกต่างกันในเรื่องของสีหลังเผา, ความโปร่งแสง, ความเหนียวของดินเพื่อให้เหมาะสมกับการเลือกใช้งาน มักใช้ทำ โคมไฟประดับ งานปั้น เช่นตุ๊กตาประดับตกแต่ง จานชาม


2. โบนไชน่า (Bone China)เป็นเครื่องปั้นดินเผาชั้นดีที่สุดมีราคาแพงสุดมีความขาวและเคลือบเป็นมันวาวมาก เนื้อละเอียด บางเบา และโปร่งแสงมากมีความแข็งแกร่งดีมาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ได้แก่ ถ้วย ชาม เครื่องประดับเป็นต้น โดยทั่วไปโบนไชนามีส่วนผสมหลักคือ เถ้ากระดูกประมาณร้อยละ 50 โดยน้ำหนัก และมีดินขาวเคโอลิน (kaolin) กับไชนาสโตน (china stone) อีกประมาณร้อยละ 25 (ในสหรัฐอเมริกาผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ชื่อโบนไชนาได้ต้องมีเถ้ากระดูกเป็นองค์ประกอบอย่างน้อยร้อยละ 25) ซึ่งปริมาณเถ้ากระดูกเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้โบนไชนามีเนื้อละเอียดสีขาว มีลักษณะโปร่งแสง และมีความแข็งมาก เถ้ากระดูกมีองค์ประกอบหลักคือ แคลเซียมฟอสเฟต (calcium phosphate, Ca3(PO4)2) ได้จากการนำกระดูกสัตว์ต่างๆ เช่น กระดูกวัว ควาย ม้า มากำจัดเศษเนื้อ เอ็นที่ติดอยู่กับกระดูกออก และนำไปเผาที่อุณหภูมิสูงประมาณ 1,000 - 1,100 องศาเซลเซียส เมื่อเถ้ากระดูกเย็นตัวลงจึงนำมาบดให้เป็น

เนื้อโบนไชน่ามักจะโปร่งแสง

3. เอิร์ธเธินแวร์ (Earthenware)เป็นผลิตภัณฑ์เซรามิกเคลือบผิวทึบแสง มีความพรุนสามารถดูดซึมน้ำได้เนื้อละเอียดสีไม่ขาวมาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ ได้แก่ หม้อดินเผา คนโท กระถางต้นไม้กระเบื้องมุงหลังคา
3.1 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟสูง Earthenware Body เป็นดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟสูงเนื้อหยาบที่ขึ้นรูปงานปั้นได้ดี ทำผลิตภัณฑ์ประเภทกระถางและกระเบื้องลอน เผาที่อุณหภูมิ 1200-1230 ํC ออกซิเดชั่น
3.2 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟต่ำหรือดินโดโลไมท์ Dolomite Earthenware Body เป็นดินโดโลไมท์ที่มีสีขาว น้ำหนักเบา นิยมทำของประดับตกแต่งหรือชุดห้องน้ำมากกว่า ทำผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร
3.3 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์เนื้อแดงหรือดินเทอราคอตต้า Terra Cotta Body ดินนี้ขึ้นรูปงานปั้นได้ดี และเผาได้ตั้งแต่ 1000-1230 C สีหลังเผาจะเป็นสีส้ม และเข้มตามอุณหภูมิที่เผาสูงขึ้น นิยมทำชุดอาหารและของตกแต่งบ้าน
4. สโตนแวร์ (Stoneware) เป็นกลุ่มดินผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายในการเลือกใช้ ทั้งดินงานปั้น, งานหล่อ, งานอัดปั๊ม เหมาะกับผลิตภัณฑ์สำหรับปรุงอาหาร Cookware ลักษณะเด่นของผลิตภัณฑ์สโตนแวร์มักจะชิ้นหนาและหนัก เน้นความแข็งแรงทนทาน
4.1 ดินสโตนแวร์เนื้อขาว White Stoneware Body เป็นดินสโตนแวร์เนื้อขาว เน้นที่จะใช้งานเคลือบใสตกแต่งด้วยสีใต้เคลือบ SAA ใช้ทั้งงานหล่อ, งานปั้นและงานอัด เป็นดินสำหรับการขึ้นรูปแบบ Isostatic press เหมาtสำหรับผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร

4.2 ดินสโตนแวร์ธรรมดา Common Stoneware Body เนื่องจากเป็นดินที่มีการสไลด์ตัวได้ดี เหมาะสกหรับงานปั้น งานขึ้นรูป ใช้ทำผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหารชิ้นใหญ่ๆ


4.3 ดินสโตนแวร์สำหรับงานหล่อชิ้นใหญ่ Stoneware Body for casting เหมาะสำหรับทำ ชุดห้องน้ำ สุขภัณฑ์ กระเบื้องลอน และกรงลูกแก้ว

4.4 ดินสโตนแวร์เนื้อแดง Red Stoneware Body เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับงานปั้น ที่มีสีหลังเผาแดงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เผาที่อุณหภูมิ 1220-1230 ํC จะให้ได้ผลิตภัณฑ์ชุดอาหารที่มีความโดดเด่น

4.5 ดินสโตนแวร์สำหรับงานปั้นชิ้นใหญ่ Stoneware Body for Hand throwing
5. เทอราคอตตา (Terra Cotta)เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีดินเหนียวผิวดินเผาแล้วมักมีสีแดง เนื้อไม่แกร่ง มีความพรุนตัวสูง มักไม่เคลือบผิวนิยมเคลือบด้วยสีต่างๆ ส่วนมากผลิตเป็นวัสดุก่อสร้าง กระเบื้องบุผนัง
6. แก้ว (Glass) เป็นเซรามิกที่โปร่งแสง บางชนิดขุ่น ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ได้แก่ หลอดไฟ แก้วน้ำขวด กระจก

7. วัสดุทนไฟ (Refractories) เป็นวัสดุประเภทอนินทรีย์พวกดิน หิน แร่ธาตุที่หลอมตัวได้ยากในอุณหภูมิสูง ต้องทนอุณหภูมิได้อย่างน้อย 1,600 องศาเซลเซียสตัวอย่างได้แก่ อิฐทนไฟ อิฐฉนวนทนไฟ
======================================================

 

http://upload.siamza.com/file_upload/modify/110815/2240859.jpg

 

แก้วสกรีนโลโก้ Credit : www.uppicweb.com

http://upload.siamza.com/file_upload/modify/110815/2242143.png

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : แก้วสกรีนโลโก้

ที่มา : http://www.kaewceramic.com

วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Ceramic Processing

Ceramic History

นักโบราณคดีได้ค้นพบเซรามิคของสัตว์สองเท้าทำวันที่กลับไปอย่างน้อย 24,000 ปีก่อนคริสตกาล เซรามิกเหล่านี้ถูกพบในสโลวาเกียและอยู่ในรูปแบบของสัตว์และมนุษย์ตุ๊กตา, แผ่นและลูก เซรามิกเหล่านี้ที่ทำจากไขมันสัตว์และกระดูกผสมกับเถ้ากระดูกและวัสดุเหมือนดินที่ดี หลังจากที่ขึ้นรูปเซรามิกส์ถูกยิงที่อุณหภูมิระหว่าง 500-800 องศาเซลเซียสในโดมและเตาเผารูปเกือกม้าบางส่วนที่ขุดลงไปในดินที่มีผนังเหลือง ในขณะที่มันไม่ชัดเจนว่าเซรามิกเหล่านี้ถูกนำมาใช้ก็ไม่ได้คิดว่าจะได้รับประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง ใช้งานครั้งแรกของเรือเครื่องปั้นดินเผาทำงานคิดว่าจะเป็นใน 9,000 ปีก่อนคริสตกาล เรือเหล่านี้ถูกนำมาใช้ส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะถือและเก็บเมล็ดพืชและอาหารการกินอื่น ๆ

มันเป็นภูมิปัญญาที่ผลิตแก้วโบราณมีปฏิสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับการทำเครื่องปั้นดินเผาที่เจริญรุ่งเรืองในสังคมอียิปต์ประมาณ 8,000 ปีก่อนคริสตกาล ในขณะที่การยิงเครื่องปั้นดินเผาการปรากฏตัวของแคลเ​​ซียมออกไซด์ (CaO) ที่มีทรายรวมกับโซดาและร้อนของเตาเผาเครื่องปั้นดินเผาที่อาจมีผลในการเคลือบสีบนหม้อเซรามิก ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามันไม่ได้จนกว่า 1500 ปีก่อนคริสตกาลกระจกที่ถูกผลิตเป็นอิสระจากเซรามิกและแฟชั่นเข้ารายการแยกต่างหาก

ตั้งแต่โบราณกาลเหล่านี้เทคโนโลยีและการใช้งานของเซรามิค (รวมถึงแก้ว) ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรามักจะใช้สำหรับการรับบทบาทที่สำคัญที่เซรามิกได้เล่นในความคืบหน้าของมนุษยชาติ ด้านล่างเป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของวิธีการเซรามิกที่มีความสำคัญต่อสังคม

แก้วสกรีนโลโก้ Credit : www.kalaery.com คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : แก้วสกรีนโลโก้

ที่มา : http://www.kaewceramic.com

รูปแบบการสกรีน ราคางานสกรีนประเภทของแก้วเซรามิก

 ประเภทการสกรีน ราคางานสกรีนประเภทของแก้วเซรามิค

 

http://upload.siamza.com/file_upload/modify/110815/2240859.jpg

 

ประจุบันการตกแต่งผลิตภัณฑ์เซรามิกมีเทคนิคการตกแต่งได้หลายวิถีทาง การใช้รูปลอกเซรามิกนั้นเป็นขบวนการหนึ่งที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมเซรามิกส อันเนื่องมาจากความลออและปรู๊ดปร๊าดในการผลิต ซึ่งรูปลอกเซรามิคนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ decalเซรามิคชนิดใต้เคลือบ รูปลอกเซรามิกชนิดในเคลือบ และdecalเซรามิกชนิดบนเคลือบ ซึ่งแต่ละประเภทล้วนมีความสวยงาม ประโยชน์ใช้สอย รวมทั้งวิธีการเกิดที่ฉีกแนวกันไป
บทความนี้จะกล่าวเฉพาะสติ๊กเกอร์เซรามิกชนิดบนเคลือบ โดยเนื้อหาจะประกอบด้วยความรู้ทั่วไป เครื่องมือ และขั้นตอนการผลิต สำหรับเนื้อหานั้น ได้เรียบเรียงและอธิบาย โดยเน้นหลักการพื้นฐานของ Silk Screen Printing for Ceramic เป็นใจความ ซึ่งจะใช้ภาพประกอบเพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจง่าย

เซรามิค Credit : www.sinkardd.com



วัตถุดิบที่ใช้ใรอุตสาหกรรมเซรามิกส์บางอย่างได้มาจากสินแร่ตามเทพนิรมิต เช่น ดินต่าง ๆ (clays) หินฟันม้า (feldspar) หินควอตรซ์ (quartz) และทรายทะเล เป็นต้น นอกจากนี้ วัตถุดิบบางอย่างได้มาจากการสะกัดจากสินแร่ตามธรรมชาติ และนำมาทำให้ไร้มลทินด้วยขบวนการทางเคมี เช่น อะลูมินา (alumina) ซึ่งได้จาก แร่บ๊อกไซท์ (bauxite) ที่ได้จากการสังเคราะห์ เช่น แบเรียมทิตาเนต นอกจากนี้ก็มีพวก เฟอร์ไรท์ (ferrites) และอินทรียวัตถุบางชนิดที่ให้เป็นตัวช่วยในการขึ้นรูป ผลิตภัณฑ์เซรามิกส์สมัยใหม่ต้องการวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตมีเปอร์เซ็นต์ ความบริสุทธิ์สูง เพราะสิ่งสกปรกเพียงเล็กน้อยซึ่งอาจจะน้อยกว่า 1% ก็อาจมีอิทธิพลต่อโครงสร้างซึ่งเชื่อมโยงไปถึงคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ด้วย การผลิตเซรามิกส์กึ่งตัวนำ (Semiconducting ceramics) สิ่งสกปรกจะต้องมีน้อยกว่า 1 ใน 10 – 8 กล่าวโดยทั่วไปสิ่งสกปรกไม่เป็นที่ปรารถนาในทุกขั้นตอนของการผลิต             การควบคุมขนาดและรูปร่างของวัตถุดิบ ก็มีความสำคัญไม่น้อยกว่า การควบคุมความบริสุทธิ์ของวัตถุดิบ เพราะมันจะมีผลต่อการขึ้นรูป การเกิดกิริยาสะท้อนระหว่างกันของวัตถุดิบต่างๆ ในขณะที่เผาหรือระหว่างการทำการสังเคราะห์สารต่างๆ

 

 ประเภทของ เซรามิกส์


เราสามารถจำแนกผลิตภัณฑ์เซรามิกตามคุณภาพเนื้อของสินค้า ได้ดังนี้
1. พอร์ซเลน (Porcelain)เป็นเซรามิคที่มีเนื้อสีขาว เคลือบผิวเป็นมัน โปร่งแสงมีความหนักแน่นเหมือนแก้วไม่ดูดซับน้ำ เคาะมีเสียงดังกังวานส่วนประกอบของเนื้อดินที่ใช้คือ ดินขาว ดินเหนียว หรือบอลเคลย์ หินไชน่าสโตน แร่ฟันม้าและแร่ควอรตซ์ ผลเก็บเกี่ยวพอร์ซเลนใช้ในงาน ได้มากมายทั้งในชีวิตประจำวันและงานอื่นๆ
ดินพอร์ชเลนมี 3 ทำนอง ทั้งนี้
1.1 ดินพอร์ซเลนถ้วนทั่ว Common Porcelain Body ใช้สำหรับงานหล่อ ที่มีอัตราการหล่อแบบที่ดี และเผาแบบรีดักชั่น แต่ไม่โปร่งแสง พอเหมาะสำหรับผลผลิตที่นำมาเขียนลายเบญจรงค์ หรือลายคราม

1.2 ดินอลูมิน่าพอร์ซเลน Alumina Porcelain Body ดินอลูมิน่าพอร์ซเลนเป็นดินที่ใช้กับงานเพ่งตรงที่ต้องการความห้าวหาญทนทานเช่นลูกถ้วยไฟฟ้า, ลูกบดและอิฐกรุ หรือสเปเซอร์ที่ต้องใช้แขวนสายไฟที่หนักเป็นตันได้โดยไม่เกิดความเสื่อมเสีย ดินในกลุ่มนี้จะมีสมบัติเหลื่อมล้ำกันไป

1.3 ดินพอร์ซเลนเนื้อขาว Soft Porcelain Body ดินพอร์ซเลนเนื้อขาวจะผิดแผกแตกต่างกันในเรื่องของสีหลังเผาผลาญ, ความโปร่งแสง, ความเหนียวของดินเพื่อให้เหมาะสมกับการเลือกใช้งาน มักใช้ทำ โคมไฟประดับ งานปั้น เช่นตุ๊กตาแต่งแต้มตกแต่ง จานชาม


2. โบนไชน่า (Bone China)เป็นเครื่องปั้นดินเผาชั้นดีที่สุดมีค่ามีราคาสุดมีความขาวและเคลือบเป็นมันวาวมาก เนื้อละเอียด บางเบา และโปร่งใสมากมีความแข็งแกร่งดีมาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ได้แก่ ถ้วย ชาม เครื่องประดับเป็นต้น โดยทั่วไปโบนไชนามีส่วนผสมหลักคือ เถ้ากระดูกประมาณร้อยละ 50 โดยน้ำหนัก และมีดินขาวเคโอลิน (kaolin) กับไชนาสโตน (china stone) อีกประมาณร้อยละ 25 (ในสหรัฐอเมริกาผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ชื่อโบนไชนาได้ต้องมีเถ้ากระดูกเป็นองค์ประกอบอย่างน้อยร้อยละ 25) ซึ่งปริมาณเถ้ากระดูกเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้โบนไชนามีเนื้อละเอียดสีขาว มีลักษณะโปร่งแสง และมีความแข็งมาก เถ้ากระดูกมีองค์ประกอบหลักคือ แคลเซียมฟอสเฟต (calcium phosphate, Ca3(PO4)2) ได้จากการนำกระดูกสัตว์ต่างๆ เช่น กระดูกวัว ควาย ม้า มากำจัดเศษเนื้อ เอ็นที่ติดอยู่กับกระดูกออก และนำไปเผาที่อุณหภูมิสูงประมาณ 1,000 - 1,100 องศาเซลเซียส เมื่อเถ้ากระดูกเย็นตัวลงจึงนำมาบดให้เป็น

เนื้อโบนไชน่ามักจะโปร่งแสง

3. เอิร์ธเธินแวร์ (Earthenware)เป็นผลิตภัณฑ์เซรามิคเคลือบผิวทึบแสง มีความพรุนสามารถดูดซึมน้ำได้เนื้อละเอียดสีไม่ขาวมาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ ได้แก่ หม้อดินเผา คนโท กระถางต้นไม้กระเบื้องมุงหลังคา
3.1 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟสูง Earthenware Body เป็นดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟสูงเนื้อหยาบที่ขึ้นรูปงานปั้นได้ดี ทำผลิตภัณฑ์ประเภทกระถางและกระเบื้องลอน เผาที่อุณหภูมิ 1200-1230 ํC ออกซิเดชั่น
3.2 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟต่ำหรือดินโดโลไมท์ Dolomite Earthenware Body เป็นดินโดโลไมท์ที่มีสีขาว น้ำหนักเบา นิยมทำของประดับตกแต่งหรือชุดห้องน้ำมากกว่า ทำผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร
3.3 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์เนื้อแดงหรือดินเทอราคอตต้า Terra Cotta Body ดินนี้ขึ้นรูปงานปั้นได้ดี และเผาได้ตั้งแต่ 1000-1230 C สีหลังเผาจะเป็นสีส้ม และเข้มตามอุณหภูมิที่เผาสูงขึ้น นิยมทำชุดอาหารและของตกแต่งบ้าน
4. สโตนแวร์ (Stoneware) เป็นกลุ่มดินผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายในการเลือกใช้ ทั้งดินงานปั้น, งานหล่อ, งานอัดปั๊ม เหมาะกับผลิตภัณฑ์สำหรับปรุงอาหาร Cookware ลักษณะเด่นของผลิตภัณฑ์สโตนแวร์มักจะชิ้นหนาและหนัก เน้นความแข็งแรงทนทาน
4.1 ดินสโตนแวร์เนื้อขาว White Stoneware Body เป็นดินสโตนแวร์เนื้อขาว เน้นที่จะใช้งานเคลือบใสตกแต่งด้วยสีใต้เคลือบ SAA ใช้ทั้งงานหล่อ, งานปั้นและงานอัด เป็นดินสำหรับการขึ้นรูปแบบ Isostatic press เหมาtสำหรับผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร

4.2 ดินสโตนแวร์ธรรมดา Common Stoneware Body เนื่องจากเป็นดินที่มีการสไลด์ตัวได้ดี เหมาะสกหรับงานปั้น งานขึ้นรูป ใช้ทำผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหารชิ้นใหญ่ๆ


4.3 ดินสโตนแวร์สำหรับงานหล่อชิ้นใหญ่ Stoneware Body for casting เหมาะสำหรับทำ ชุดห้องน้ำ สุขภัณฑ์ กระเบื้องลอน และกรงลูกแก้ว

4.4 ดินสโตนแวร์เนื้อแดง Red Stoneware Body เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับงานปั้น ที่มีสีหลังเผาแดงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เผาที่อุณหภูมิ 1220-1230 ํC จะให้ได้ผลิตภัณฑ์ชุดอาหารที่มีความโดดเด่น

4.5 ดินสโตนแวร์สำหรับงานปั้นชิ้นใหญ่ Stoneware Body for Hand throwing
5. เทอราคอตตา (Terra Cotta)เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีดินเหนียวผิวดินเผาแล้วมักมีสีแดง เนื้อไม่แกร่ง มีความพรุนตัวสูง มักไม่เคลือบผิวนิยมเคลือบด้วยสีต่างๆ ส่วนมากผลิตเป็นวัสดุก่อสร้าง กระเบื้องบุผนัง
6. แก้ว (Glass) เป็นเซรามิกที่โปร่งแสง บางชนิดขุ่น ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ได้แก่ หลอดไฟ แก้วน้ำขวด กระจก

7. วัสดุทนไฟ (Refractories) เป็นวัสดุประเภทอนินทรีย์พวกดิน หิน แร่ธาตุที่หลอมตัวได้ยากในอุณหภูมิสูง ต้องทนอุณหภูมิได้อย่างน้อย 1,600 องศาเซลเซียสตัวอย่างได้แก่ อิฐทนไฟ อิฐฉนวนทนไฟ
======================================================

 ประเภทของ เซรามิกส์
ประเภทของเซรามิก

เราสามารถจำแนกผลิตภัณฑ์เซรามิกตามคุณภาพเนื้อของผลิตภัณฑ์ ได้ดังนี้
1. พอร์ซเลน (Porcelain)เป็นเซรามิกที่มีเนื้อสีขาว เคลือบผิวเป็นมัน โปร่งแสงมีความแข็งแกร่งเหมือนแก้วไม่ดูดซึมน้ำ เคาะมีเสียงดังกังวานส่วนผสมของเนื้อดินที่ใช้คือ ดินขาว ดินเหนียว หรือบอลเคลย์ หินไชน่าสโตน แร่ฟันม้าและแร่ควอรตซ์ ผลิตภัณฑ์พอร์ซเลนใช้ในงาน ได้หลากหลายทั้งในชีวิตประจำวันและงานอื่นๆ
ดินพอร์ชเลนมี 3 แบบ ดังนี้
1.1 ดินพอร์ซเลนทั่วไป Common Porcelain Body ใช้สำหรับงานหล่อ ที่มีอัตราการหล่อแบบที่ดี และเผาแบบรีดักชั่น แต่ไม่โปร่งแสง เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่นำมาเขียนลายเบญจรงค์ หรือลายคราม

1.2 ดินอลูมิน่าพอร์ซเลน Alumina Porcelain Body ดินอลูมิน่าพอร์ซเลนเป็นดินที่ใช้กับงานเฉพาะที่ต้องการความแข็งแรงทนทานเช่นลูกถ้วยไฟฟ้า, ลูกบดและอิฐกรุ หรือสเปเซอร์ที่ต้องใช้แขวนสายไฟที่หนักเป็นตันได้โดยไม่เกิดความเสียหาย ดินในกลุ่มนี้จะมีสมบัติแตกต่างกันไป

1.3 ดินพอร์ซเลนเนื้อขาว Soft Porcelain Body ดินพอร์ซเลนเนื้อขาวจะแตกต่างกันในเรื่องของสีหลังเผา, ความโปร่งแสง, ความเหนียวของดินเพื่อให้เหมาะสมกับการเลือกใช้งาน มักใช้ทำ โคมไฟประดับ งานปั้น เช่นตุ๊กตาประดับตกแต่ง จานชาม


2. โบนไชน่า (Bone China)เป็นเครื่องปั้นดินเผาชั้นดีที่สุดมีราคาแพงสุดมีความขาวและเคลือบเป็นมันวาวมาก เนื้อละเอียด บางเบา และโปร่งแสงมากมีความแข็งแกร่งดีมาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ได้แก่ ถ้วย ชาม เครื่องประดับเป็นต้น โดยทั่วไปโบนไชนามีส่วนผสมหลักคือ เถ้ากระดูกประมาณร้อยละ 50 โดยน้ำหนัก และมีดินขาวเคโอลิน (kaolin) กับไชนาสโตน (china stone) อีกประมาณร้อยละ 25 (ในสหรัฐอเมริกาผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ชื่อโบนไชนาได้ต้องมีเถ้ากระดูกเป็นองค์ประกอบอย่างน้อยร้อยละ 25) ซึ่งปริมาณเถ้ากระดูกเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้โบนไชนามีเนื้อละเอียดสีขาว มีลักษณะโปร่งแสง และมีความแข็งมาก เถ้ากระดูกมีองค์ประกอบหลักคือ แคลเซียมฟอสเฟต (calcium phosphate, Ca3(PO4)2) ได้จากการนำกระดูกสัตว์ต่างๆ เช่น กระดูกวัว ควาย ม้า มากำจัดเศษเนื้อ เอ็นที่ติดอยู่กับกระดูกออก และนำไปเผาที่อุณหภูมิสูงประมาณ 1,000 - 1,100 องศาเซลเซียส เมื่อเถ้ากระดูกเย็นตัวลงจึงนำมาบดให้เป็น

เนื้อโบนไชน่ามักจะโปร่งแสง

3. เอิร์ธเธินแวร์ (Earthenware)เป็นผลิตภัณฑ์เซรามิกเคลือบผิวทึบแสง มีความพรุนสามารถดูดซึมน้ำได้เนื้อละเอียดสีไม่ขาวมาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ ได้แก่ หม้อดินเผา คนโท กระถางต้นไม้กระเบื้องมุงหลังคา
3.1 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟสูง Earthenware Body เป็นดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟสูงเนื้อหยาบที่ขึ้นรูปงานปั้นได้ดี ทำผลิตภัณฑ์ประเภทกระถางและกระเบื้องลอน เผาที่อุณหภูมิ 1200-1230 ํC ออกซิเดชั่น
3.2 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟต่ำหรือดินโดโลไมท์ Dolomite Earthenware Body เป็นดินโดโลไมท์ที่มีสีขาว น้ำหนักเบา นิยมทำของประดับตกแต่งหรือชุดห้องน้ำมากกว่า ทำผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร
3.3 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์เนื้อแดงหรือดินเทอราคอตต้า Terra Cotta Body ดินนี้ขึ้นรูปงานปั้นได้ดี และเผาได้ตั้งแต่ 1000-1230 C สีหลังเผาจะเป็นสีส้ม และเข้มตามอุณหภูมิที่เผาสูงขึ้น นิยมทำชุดอาหารและของตกแต่งบ้าน
4. สโตนแวร์ (Stoneware) เป็นกลุ่มดินผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายในการเลือกใช้ ทั้งดินงานปั้น, งานหล่อ, งานอัดปั๊ม เหมาะกับผลิตภัณฑ์สำหรับปรุงอาหาร Cookware ลักษณะเด่นของผลิตภัณฑ์สโตนแวร์มักจะชิ้นหนาและหนัก เน้นความแข็งแรงทนทาน
4.1 ดินสโตนแวร์เนื้อขาว White Stoneware Body เป็นดินสโตนแวร์เนื้อขาว เน้นที่จะใช้งานเคลือบใสตกแต่งด้วยสีใต้เคลือบ SAA ใช้ทั้งงานหล่อ, งานปั้นและงานอัด เป็นดินสำหรับการขึ้นรูปแบบ Isostatic press เหมาtสำหรับผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร

4.2 ดินสโตนแวร์ธรรมดา Common Stoneware Body เนื่องจากเป็นดินที่มีการสไลด์ตัวได้ดี เหมาะสกหรับงานปั้น งานขึ้นรูป ใช้ทำผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหารชิ้นใหญ่ๆ


4.3 ดินสโตนแวร์สำหรับงานหล่อชิ้นใหญ่ Stoneware Body for casting เหมาะสำหรับทำ ชุดห้องน้ำ สุขภัณฑ์ กระเบื้องลอน และกรงลูกแก้ว

4.4 ดินสโตนแวร์เนื้อแดง Red Stoneware Body เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับงานปั้น ที่มีสีหลังเผาแดงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เผาที่อุณหภูมิ 1220-1230 ํC จะให้ได้ผลิตภัณฑ์ชุดอาหารที่มีความโดดเด่น

4.5 ดินสโตนแวร์สำหรับงานปั้นชิ้นใหญ่ Stoneware Body for Hand throwing
5. เทอราคอตตา (Terra Cotta)เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีดินเหนียวผิวดินเผาแล้วมักมีสีแดง เนื้อไม่แกร่ง มีความพรุนตัวสูง มักไม่เคลือบผิวนิยมเคลือบด้วยสีต่างๆ ส่วนมากผลิตเป็นวัสดุก่อสร้าง กระเบื้องบุผนัง
6. แก้ว (Glass) เป็นเซรามิกที่โปร่งแสง บางชนิดขุ่น ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ได้แก่ หลอดไฟ แก้วน้ำขวด กระจก

7. วัสดุทนไฟ (Refractories) เป็นวัสดุประเภทอนินทรีย์พวกดิน หิน แร่ธาตุที่หลอมตัวได้ยากในอุณหภูมิสูง ต้องทนอุณหภูมิได้อย่างน้อย 1,600 องศาเซลเซียสตัวอย่างได้แก่ อิฐทนไฟ อิฐฉนวนทนไฟ
======================================================

 

http://upload.siamza.com/file_upload/modify/110815/2240859.jpg

 

http://upload.siamza.com/file_upload/modify/110815/2242143.png

 



ขอบคุณบทความจาก : http://www.kaewceramic.com

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Ceramic Processing

Ceramic History

แก้วสกรีนโลโก้ Credit : www.evolution-trade.com

นักโบราณคดีได้ค้นพบเซรามิคของสัตว์สองเท้าทำวันที่กลับไปอย่างน้อย 24,000 ปีก่อนคริสตกาล เซรามิคเหล่านี้ถูกพบในสโลวาเกียและอยู่ในรูปแบบของสัตว์และมนุษย์ตุ๊กตา, แผ่นและลูก เซรามิกสเหล่านี้ที่ทำจากไขมันสัตว์และกระดูกผสมกับเถ้ากระดูกและวัสดุเหมือนดินที่ดี หลังจากที่ขึ้นรูปเซรามิกส์ถูกยิงที่อุณหภูมิระหว่าง 500-800 องศาเซลเซียสในโดมและเตาเผารูปเกือกม้าบางส่วนที่ขุดลงไปในดินที่มีผนังเหลือง ในขณะที่มันไม่ชัดเจนว่าเซรามิกเหล่านี้ถูกนำมาใช้ก็ไม่ได้คิดว่าจะได้รับประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง ใช้งานครั้งแรกของเรือเครื่องปั้นดินเผาทำงานคิดว่าจะเป็นใน 9,000 ปีก่อนคริสตกาล เรือเหล่านี้ถูกนำมาใช้ส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะถือและเก็บเมล็ดพืชและข้าวอื่น ๆ

มันเป็นความคิดที่ผลิตแก้วโบราณมีความข้องเกี่ยวอย่างใกล้ชิดกับการทำเครื่องปั้นดินเผาที่เจริญรุ่งเรืองในสังคมอียิปต์ประมาณ 8,000 ปีก่อนคริสตกาล ในขณะที่การยิงเครื่องปั้นดินเผาการปรากฏตัวของแคลเ​​ซียมออกไซด์ (CaO) ที่มีทรายรวมกับโซดาและร้อนของเตาเผาเครื่องปั้นดินเผาที่อาจมีผลในการเคลือบสีบนหม้อเซรามิกส ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามันไม่ได้จนกว่า 1500 ปีก่อนคริสตกาลกระจกที่ถูกผลิตเป็นอิสระจากเซรามิกและแฟชั่นเข้ารายการแยกต่างหาก

ตั้งแต่อดีตสมัยเหล่านี้เทคโนโลยีและการใช้งานของเซรามิก (รวมถึงแก้ว) ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรามักจะใช้สำหรับการรับบทบาทที่สำคัญที่เซรามิกได้เล่นในความคืบหน้าของิ ด้านล่างเป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของวิธีการเซรามิกที่มีความสำคัญต่อสังคม

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : แก้วสกรีนโลโก้

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.kaewceramic.com

การสกรีน ราคางานสกรีนประเภทของแก้วเซรามิก

 การสกรีน ราคางานสกรีนประเภทของแก้วเซรามิค

 

http://upload.siamza.com/file_upload/modify/110815/2243163.jpg

 

ล่าสุดการตกแต่งผลิตภัณฑ์เซรามิกมีเทคนิคการตกแต่งได้หลายแนวทาง การใช้สติ๊กเกอร์เซรามิกสนั้นเป็นขั้นตอนหนึ่งที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมเซรามิกส อันเนื่องมาจากความสวยงามและโดยพลันในการผลิต ซึ่งรูปลอกเซรามิกสนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ สติกเกอร์เซรามิกชนิดใต้เคลือบ decalเซรามิคชนิดในเคลือบ และสติกเกอร์เซรามิกชนิดบนเคลือบ ซึ่งแต่ละประเภทล้วนมีความสวยงาม ประโยชน์ใช้สอย รวมทั้งวิธีการกำเนิดที่ผิดแผกกันไป
บทความนี้จะกล่าวเฉพาะdecalเซรามิกชนิดบนเคลือบ โดยเนื้อหาจะประกอบด้วยความรู้ทั่วไป เครื่องไม้เครื่องมือ และขั้นตอนการผลิต สำหรับเนื้อหานั้น ได้เรียบเรียงและอธิบาย โดยเน้นหลักการพื้นฐานของ Silk Screen Printing for Ceramic เป็นจุดสำคัญ ซึ่งจะใช้ภาพประกอบเพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจง่าย



วัตถุดิบที่ใช้ใรอุตสาหกรรมเซรามิกส์บางอย่างได้มาจากสินแร่ตามธรรมดา เช่น ดินต่าง ๆ (clays) หินฟันม้า (feldspar) หินควอตรซ์ (quartz) และทรายทะเล เป็นต้น นอกจากนี้ วัตถุดิบบางอย่างได้มาจากการสะกัดจากสินแร่ตามธรรมชาติ และนำมาทำให้ประภัสสรด้วยขบวนการทางเคมี เช่น อะลูมินา (alumina) ซึ่งได้จาก แร่บ๊อกไซท์ (bauxite) ที่ได้จากการสังเคราะห์ เช่น แบเรียมทิตาเนต นอกจากนี้ก็มีพวก เฟอร์ไรท์ (ferrites) และสารอินทรีย์บางชนิดที่ให้เป็นตัวช่วยในการขึ้นรูป ผลิตภัณฑ์เซรามิกส์สมัยใหม่ต้องการวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตมีเปอร์เซ็นต์ ความบริสุทธิ์สูง เพราะสิ่งสกปรกเพียงเล็กน้อยซึ่งอาจจะน้อยกว่า 1% ก็อาจมีอิทธิพลต่อโครงสร้างซึ่งเชื่อมโยงไปถึงคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ด้วย การผลิตเซรามิกส์กึ่งตัวนำ (Semiconducting ceramics) สิ่งสกปรกจะต้องมีน้อยกว่า 1 ใน 10 – 8 กล่าวโดยทั่วไปสิ่งสกปรกไม่เป็นที่ปรารถนาในทุกขั้นตอนของการผลิต             การควบคุมขนาดและรูปร่างของวัตถุดิบ ก็มีความสำคัญไม่น้อยกว่า การควบคุมความบริสุทธิ์ของวัตถุดิบ เพราะมันจะมีผลต่อการขึ้นรูป การเกิดการตอบสนองระหว่างกันของวัตถุดิบต่างๆ ในขณะที่เผาหรือระหว่างการทำการสังเคราะห์สารต่างๆ

 

 ประเภทของ เซรามิก


เราสามารถแบ่งแยกผลิตภัณฑ์เซรามิกส์ตามคุณภาพเนื้อของผลิตภัณฑ์ ได้ดังนี้
1. พอร์ซเลน (Porcelain)เป็นเซรามิคที่มีเนื้อสีขาว เคลือบผิวเป็นมัน โปร่งแสงมีความแกร่งเหมือนแก้วไม่ซับน้ำ เคาะมีเสียงดังกังวานองค์ประกอบของเนื้อดินที่ใช้คือ ดินขาว ดินเหนียว หรือบอลเคลย์ หินไชน่าสโตน แร่ฟันม้าและแร่ควอรตซ์ ผลเก็บเกี่ยวพอร์ซเลนใช้ในงาน ได้นานาประการทั้งในชีวิตประจำวันและงานอื่นๆ
ดินพอร์ชเลนมี 3 ประการใด ทั้งนี้
1.1 ดินพอร์ซเลนดารดาษ Common Porcelain Body ใช้สำหรับงานหล่อ ที่มีอัตราการหล่อแบบที่ดี และเผาผลาญแบบรีดักชั่น แต่ไม่โปร่งแสง สมสำหรับผลิตผลที่นำมาเขียนลายเบญจรงค์ หรือลายคราม

1.2 ดินอลูมิน่าพอร์ซเลน Alumina Porcelain Body ดินอลูมิน่าพอร์ซเลนเป็นดินที่ใช้กับงานเพ่งตรงที่ต้องการความสดชื่นคงทนถาวรเช่นลูกถ้วยไฟฟ้า, ลูกบดและอิฐกรุ หรือสเปเซอร์ที่ต้องใช้แขวนสายไฟที่หนักเป็นตันได้โดยไม่เกิดความวิบัติ ดินในกลุ่มนี้จะมีสมบัติฉีกแนวกันไป

1.3 ดินพอร์ซเลนเนื้อขาว Soft Porcelain Body ดินพอร์ซเลนเนื้อขาวจะแปลกแยกกันในเรื่องของสีหลังย่าง, ความโปร่งแสง, ความเหนียวของดินเพื่อให้เหมาะสมกับการเลือกใช้งาน มักใช้ทำ โคมไฟประดับ งานปั้น เช่นตุ๊กตาแต่งแต้มตกแต่ง จานชาม


2. โบนไชน่า (Bone China)เป็นเครื่องปั้นดินเผาชั้นดีที่สุดมีราคามีราคาสุดมีความขาวและเคลือบเป็นมันวาวมาก เนื้อละเอียด บางเบา และบางมากมีความแข็งแกร่งดีมาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ได้แก่ ถ้วย ชาม เครื่องประดับเป็นต้น โดยทั่วไปโบนไชนามีส่วนผสมหลักคือ เถ้ากระดูกประมาณร้อยละ 50 โดยน้ำหนัก และมีดินขาวเคโอลิน (kaolin) กับไชนาสโตน (china stone) อีกประมาณร้อยละ 25 (ในสหรัฐอเมริกาผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ชื่อโบนไชนาได้ต้องมีเถ้ากระดูกเป็นองค์ประกอบอย่างน้อยร้อยละ 25) ซึ่งปริมาณเถ้ากระดูกเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้โบนไชนามีเนื้อละเอียดสีขาว มีลักษณะโปร่งแสง และมีความแข็งมาก เถ้ากระดูกมีองค์ประกอบหลักคือ แคลเซียมฟอสเฟต (calcium phosphate, Ca3(PO4)2) ได้จากการนำกระดูกสัตว์ต่างๆ เช่น กระดูกวัว ควาย ม้า มากำจัดเศษเนื้อ เอ็นที่ติดอยู่กับกระดูกออก และนำไปเผาที่อุณหภูมิสูงประมาณ 1,000 - 1,100 องศาเซลเซียส เมื่อเถ้ากระดูกเย็นตัวลงจึงนำมาบดให้เป็น

เนื้อโบนไชน่ามักจะโปร่งแสง

3. เอิร์ธเธินแวร์ (Earthenware)เป็นผลิตภัณฑ์เซรามิคเคลือบผิวทึบแสง มีความพรุนสามารถดูดซึมน้ำได้เนื้อละเอียดสีไม่ขาวมาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ ได้แก่ หม้อดินเผา คนโท กระถางต้นไม้กระเบื้องมุงหลังคา
3.1 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟสูง Earthenware Body เป็นดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟสูงเนื้อหยาบที่ขึ้นรูปงานปั้นได้ดี ทำผลิตภัณฑ์ประเภทกระถางและกระเบื้องลอน เผาที่อุณหภูมิ 1200-1230 ํC ออกซิเดชั่น
3.2 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟต่ำหรือดินโดโลไมท์ Dolomite Earthenware Body เป็นดินโดโลไมท์ที่มีสีขาว น้ำหนักเบา นิยมทำของประดับตกแต่งหรือชุดห้องน้ำมากกว่า ทำผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร
3.3 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์เนื้อแดงหรือดินเทอราคอตต้า Terra Cotta Body ดินนี้ขึ้นรูปงานปั้นได้ดี และเผาได้ตั้งแต่ 1000-1230 C สีหลังเผาจะเป็นสีส้ม และเข้มตามอุณหภูมิที่เผาสูงขึ้น นิยมทำชุดอาหารและของตกแต่งบ้าน
4. สโตนแวร์ (Stoneware) เป็นกลุ่มดินผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายในการเลือกใช้ ทั้งดินงานปั้น, งานหล่อ, งานอัดปั๊ม เหมาะกับผลิตภัณฑ์สำหรับปรุงอาหาร Cookware ลักษณะเด่นของผลิตภัณฑ์สโตนแวร์มักจะชิ้นหนาและหนัก เน้นความแข็งแรงทนทาน
4.1 ดินสโตนแวร์เนื้อขาว White Stoneware Body เป็นดินสโตนแวร์เนื้อขาว เน้นที่จะใช้งานเคลือบใสตกแต่งด้วยสีใต้เคลือบ SAA ใช้ทั้งงานหล่อ, งานปั้นและงานอัด เป็นดินสำหรับการขึ้นรูปแบบ Isostatic press เหมาtสำหรับผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร

4.2 ดินสโตนแวร์ธรรมดา Common Stoneware Body เนื่องจากเป็นดินที่มีการสไลด์ตัวได้ดี เหมาะสกหรับงานปั้น งานขึ้นรูป ใช้ทำผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหารชิ้นใหญ่ๆ


4.3 ดินสโตนแวร์สำหรับงานหล่อชิ้นใหญ่ Stoneware Body for casting เหมาะสำหรับทำ ชุดห้องน้ำ สุขภัณฑ์ กระเบื้องลอน และกรงลูกแก้ว

4.4 ดินสโตนแวร์เนื้อแดง Red Stoneware Body เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับงานปั้น ที่มีสีหลังเผาแดงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เผาที่อุณหภูมิ 1220-1230 ํC จะให้ได้ผลิตภัณฑ์ชุดอาหารที่มีความโดดเด่น

4.5 ดินสโตนแวร์สำหรับงานปั้นชิ้นใหญ่ Stoneware Body for Hand throwing
5. เทอราคอตตา (Terra Cotta)เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีดินเหนียวผิวดินเผาแล้วมักมีสีแดง เนื้อไม่แกร่ง มีความพรุนตัวสูง มักไม่เคลือบผิวนิยมเคลือบด้วยสีต่างๆ ส่วนมากผลิตเป็นวัสดุก่อสร้าง กระเบื้องบุผนัง
6. แก้ว (Glass) เป็นเซรามิกที่โปร่งแสง บางชนิดขุ่น ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ได้แก่ หลอดไฟ แก้วน้ำขวด กระจก

7. วัสดุทนไฟ (Refractories) เป็นวัสดุประเภทอนินทรีย์พวกดิน หิน แร่ธาตุที่หลอมตัวได้ยากในอุณหภูมิสูง ต้องทนอุณหภูมิได้อย่างน้อย 1,600 องศาเซลเซียสตัวอย่างได้แก่ อิฐทนไฟ อิฐฉนวนทนไฟ
======================================================

 ประเภทของ เซรามิกส์
ประเภทของเซรามิก

เราสามารถจำแนกผลิตภัณฑ์เซรามิกตามคุณภาพเนื้อของผลิตภัณฑ์ ได้ดังนี้
1. พอร์ซเลน (Porcelain)เป็นเซรามิกที่มีเนื้อสีขาว เคลือบผิวเป็นมัน โปร่งแสงมีความแข็งแกร่งเหมือนแก้วไม่ดูดซึมน้ำ เคาะมีเสียงดังกังวานส่วนผสมของเนื้อดินที่ใช้คือ ดินขาว ดินเหนียว หรือบอลเคลย์ หินไชน่าสโตน แร่ฟันม้าและแร่ควอรตซ์ ผลิตภัณฑ์พอร์ซเลนใช้ในงาน ได้หลากหลายทั้งในชีวิตประจำวันและงานอื่นๆ
ดินพอร์ชเลนมี 3 แบบ ดังนี้
1.1 ดินพอร์ซเลนทั่วไป Common Porcelain Body ใช้สำหรับงานหล่อ ที่มีอัตราการหล่อแบบที่ดี และเผาแบบรีดักชั่น แต่ไม่โปร่งแสง เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่นำมาเขียนลายเบญจรงค์ หรือลายคราม

1.2 ดินอลูมิน่าพอร์ซเลน Alumina Porcelain Body ดินอลูมิน่าพอร์ซเลนเป็นดินที่ใช้กับงานเฉพาะที่ต้องการความแข็งแรงทนทานเช่นลูกถ้วยไฟฟ้า, ลูกบดและอิฐกรุ หรือสเปเซอร์ที่ต้องใช้แขวนสายไฟที่หนักเป็นตันได้โดยไม่เกิดความเสียหาย ดินในกลุ่มนี้จะมีสมบัติแตกต่างกันไป

1.3 ดินพอร์ซเลนเนื้อขาว Soft Porcelain Body ดินพอร์ซเลนเนื้อขาวจะแตกต่างกันในเรื่องของสีหลังเผา, ความโปร่งแสง, ความเหนียวของดินเพื่อให้เหมาะสมกับการเลือกใช้งาน มักใช้ทำ โคมไฟประดับ งานปั้น เช่นตุ๊กตาประดับตกแต่ง จานชาม


2. โบนไชน่า (Bone China)เป็นเครื่องปั้นดินเผาชั้นดีที่สุดมีราคาแพงสุดมีความขาวและเคลือบเป็นมันวาวมาก เนื้อละเอียด บางเบา และโปร่งแสงมากมีความแข็งแกร่งดีมาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ได้แก่ ถ้วย ชาม เครื่องประดับเป็นต้น โดยทั่วไปโบนไชนามีส่วนผสมหลักคือ เถ้ากระดูกประมาณร้อยละ 50 โดยน้ำหนัก และมีดินขาวเคโอลิน (kaolin) กับไชนาสโตน (china stone) อีกประมาณร้อยละ 25 (ในสหรัฐอเมริกาผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ชื่อโบนไชนาได้ต้องมีเถ้ากระดูกเป็นองค์ประกอบอย่างน้อยร้อยละ 25) ซึ่งปริมาณเถ้ากระดูกเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้โบนไชนามีเนื้อละเอียดสีขาว มีลักษณะโปร่งแสง และมีความแข็งมาก เถ้ากระดูกมีองค์ประกอบหลักคือ แคลเซียมฟอสเฟต (calcium phosphate, Ca3(PO4)2) ได้จากการนำกระดูกสัตว์ต่างๆ เช่น กระดูกวัว ควาย ม้า มากำจัดเศษเนื้อ เอ็นที่ติดอยู่กับกระดูกออก และนำไปเผาที่อุณหภูมิสูงประมาณ 1,000 - 1,100 องศาเซลเซียส เมื่อเถ้ากระดูกเย็นตัวลงจึงนำมาบดให้เป็น

เนื้อโบนไชน่ามักจะโปร่งแสง

3. เอิร์ธเธินแวร์ (Earthenware)เป็นผลิตภัณฑ์เซรามิกเคลือบผิวทึบแสง มีความพรุนสามารถดูดซึมน้ำได้เนื้อละเอียดสีไม่ขาวมาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ ได้แก่ หม้อดินเผา คนโท กระถางต้นไม้กระเบื้องมุงหลังคา
3.1 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟสูง Earthenware Body เป็นดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟสูงเนื้อหยาบที่ขึ้นรูปงานปั้นได้ดี ทำผลิตภัณฑ์ประเภทกระถางและกระเบื้องลอน เผาที่อุณหภูมิ 1200-1230 ํC ออกซิเดชั่น
3.2 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟต่ำหรือดินโดโลไมท์ Dolomite Earthenware Body เป็นดินโดโลไมท์ที่มีสีขาว น้ำหนักเบา นิยมทำของประดับตกแต่งหรือชุดห้องน้ำมากกว่า ทำผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร
3.3 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์เนื้อแดงหรือดินเทอราคอตต้า Terra Cotta Body ดินนี้ขึ้นรูปงานปั้นได้ดี และเผาได้ตั้งแต่ 1000-1230 C สีหลังเผาจะเป็นสีส้ม และเข้มตามอุณหภูมิที่เผาสูงขึ้น นิยมทำชุดอาหารและของตกแต่งบ้าน
4. สโตนแวร์ (Stoneware) เป็นกลุ่มดินผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายในการเลือกใช้ ทั้งดินงานปั้น, งานหล่อ, งานอัดปั๊ม เหมาะกับผลิตภัณฑ์สำหรับปรุงอาหาร Cookware ลักษณะเด่นของผลิตภัณฑ์สโตนแวร์มักจะชิ้นหนาและหนัก เน้นความแข็งแรงทนทาน
4.1 ดินสโตนแวร์เนื้อขาว White Stoneware Body เป็นดินสโตนแวร์เนื้อขาว เน้นที่จะใช้งานเคลือบใสตกแต่งด้วยสีใต้เคลือบ SAA ใช้ทั้งงานหล่อ, งานปั้นและงานอัด เป็นดินสำหรับการขึ้นรูปแบบ Isostatic press เหมาtสำหรับผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร

4.2 ดินสโตนแวร์ธรรมดา Common Stoneware Body เนื่องจากเป็นดินที่มีการสไลด์ตัวได้ดี เหมาะสกหรับงานปั้น งานขึ้นรูป ใช้ทำผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหารชิ้นใหญ่ๆ


4.3 ดินสโตนแวร์สำหรับงานหล่อชิ้นใหญ่ Stoneware Body for casting เหมาะสำหรับทำ ชุดห้องน้ำ สุขภัณฑ์ กระเบื้องลอน และกรงลูกแก้ว

4.4 ดินสโตนแวร์เนื้อแดง Red Stoneware Body เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับงานปั้น ที่มีสีหลังเผาแดงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เผาที่อุณหภูมิ 1220-1230 ํC จะให้ได้ผลิตภัณฑ์ชุดอาหารที่มีความโดดเด่น

4.5 ดินสโตนแวร์สำหรับงานปั้นชิ้นใหญ่ Stoneware Body for Hand throwing
5. เทอราคอตตา (Terra Cotta)เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีดินเหนียวผิวดินเผาแล้วมักมีสีแดง เนื้อไม่แกร่ง มีความพรุนตัวสูง มักไม่เคลือบผิวนิยมเคลือบด้วยสีต่างๆ ส่วนมากผลิตเป็นวัสดุก่อสร้าง กระเบื้องบุผนัง
6. แก้ว (Glass) เป็นเซรามิกที่โปร่งแสง บางชนิดขุ่น ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ได้แก่ หลอดไฟ แก้วน้ำขวด กระจก

7. วัสดุทนไฟ (Refractories) เป็นวัสดุประเภทอนินทรีย์พวกดิน หิน แร่ธาตุที่หลอมตัวได้ยากในอุณหภูมิสูง ต้องทนอุณหภูมิได้อย่างน้อย 1,600 องศาเซลเซียสตัวอย่างได้แก่ อิฐทนไฟ อิฐฉนวนทนไฟ
======================================================

 

http://upload.siamza.com/file_upload/modify/110815/2240860.jpg

 

http://upload.siamza.com/file_upload/modify/110815/2242143.png

เซรามิค Credit : s.exaidea.com

 



เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.kaewceramic.com

วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Ceramic Processing

Ceramic History

นักโบราณคดีได้ค้นพบเซรามิกส์ของมานพทำวันที่กลับไปอย่างน้อย 24,000 ปีก่อนคริสตกาล เซรามิกสเหล่านี้ถูกพบในสโลวาเกียและอยู่ในรูปแบบของสัตว์และมนุษย์ตุ๊กตา, แผ่นและลูก เซรามิกสเหล่านี้ที่ทำจากไขมันสัตว์และกระดูกผสมกับเถ้ากระดูกและวัสดุเหมือนดินที่ดี หลังจากที่ขึ้นรูปเซรามิกส์ถูกยิงที่อุณหภูมิระหว่าง 500-800 องศาเซลเซียสในโดมและเตาเผารูปเกือกม้าบางส่วนที่ขุดลงไปในดินที่มีผนังเหลือง ในขณะที่มันไม่ชัดเจนว่าเซรามิกเหล่านี้ถูกนำมาใช้ก็ไม่ได้คิดว่าจะได้รับประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง ใช้งานครั้งแรกของเรือเครื่องปั้นดินเผาทำงานคิดว่าจะเป็นใน 9,000 ปีก่อนคริสตกาล เรือเหล่านี้ถูกนำมาใช้ส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะถือและเก็บเมล็ดพืชและภัตอื่น ๆ

มันเป็นพระราชดำริที่ผลิตแก้วโบราณมีความข้องเกี่ยวอย่างใกล้ชิดกับการทำเครื่องปั้นดินเผาที่เจริญรุ่งเรืองในสังคมอียิปต์ประมาณ 8,000 ปีก่อนคริสตกาล ในขณะที่การยิงเครื่องปั้นดินเผาการปรากฏตัวของแคลเ​​ซียมออกไซด์ (CaO) ที่มีทรายรวมกับโซดาและร้อนของเตาเผาเครื่องปั้นดินเผาที่อาจมีผลในการเคลือบสีบนหม้อเซรามิกส ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามันไม่ได้จนกว่า 1500 ปีก่อนคริสตกาลกระจกที่ถูกผลิตเป็นอิสระจากเซรามิกและแฟชั่นเข้ารายการแยกต่างหาก

ตั้งแต่โบราณกาลเหล่านี้เทคโนโลยีและการใช้งานของเซรามิกส (รวมถึงแก้ว) ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรามักจะใช้สำหรับการรับบทบาทที่สำคัญที่เซรามิกได้เล่นในความคืบหน้าของมนุษย์โลก ด้านล่างเป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของวิธีการเซรามิกที่มีความสำคัญต่อสังคม

แก้วสกรีนโลโก้ Credit : img2.plazathai.com คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : แก้วสกรีนโลโก้

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.kaewceramic.com

ประเภทการสกรีน ราคางานสกรีนประเภทของแก้วเซรามิก

 ประเภทการสกรีน ราคางานสกรีนประเภทของแก้วเซรามิก

แก้วเซรามิค Credit : k.lnwfile.com

 

http://upload.siamza.com/file_upload/modify/110815/2243163.jpg

 

ปัจจุบันการตกแต่งผลิตภัณฑ์เซรามิกมีเทคนิคการตกแต่งได้หลายกรรมวิธี การใช้สติกเกอร์เซรามิกนั้นเป็นวิธีการหนึ่งที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมเซรามิกส อันเนื่องมาจากความวิไลและไวในการผลิต ซึ่งรูปลอกเซรามิกสนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ decalเซรามิคชนิดใต้เคลือบ สติ๊กเกอร์เซรามิกสชนิดในเคลือบ และรูปลอกเซรามิกชนิดบนเคลือบ ซึ่งแต่ละประเภทล้วนมีความสวยงาม ประโยชน์ใช้สอย รวมทั้งกรรมวิธีกำเนิดที่เบี่ยงเบนกันไป
บทความนี้จะกล่าวเฉพาะรูปลอกเซรามิกชนิดบนเคลือบ โดยเนื้อหาจะประกอบด้วยความรู้ทั่วไป อุปกรณ์ และขั้นตอนการผลิต สำหรับเนื้อหานั้น ได้เรียบเรียงและอธิบาย โดยเน้นหลักการพื้นฐานของ Silk Screen Printing for Ceramic เป็นสาระ ซึ่งจะใช้ภาพประกอบเพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจง่าย



วัตถุดิบที่ใช้ใรอุตสาหกรรมเซรามิกส์บางอย่างได้มาจากสินแร่ตามธรรมชาติ เช่น ดินต่าง ๆ (clays) หินฟันม้า (feldspar) หินควอตรซ์ (quartz) และทรายทะเล เป็นต้น นอกจากนี้ วัตถุดิบบางอย่างได้มาจากการสะกัดจากสินแร่ตามธรรมชาติ และนำมาทำให้แจ่มด้วยขบวนการทางเคมี เช่น อะลูมินา (alumina) ซึ่งได้จาก แร่บ๊อกไซท์ (bauxite) ที่ได้จากการสังเคราะห์ เช่น แบเรียมทิตาเนต นอกจากนี้ก็มีพวก เฟอร์ไรท์ (ferrites) และอินทรียวัตถุบางชนิดที่ให้เป็นตัวช่วยในการขึ้นรูป ผลิตภัณฑ์เซรามิกส์สมัยใหม่ต้องการวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตมีเปอร์เซ็นต์ ความบริสุทธิ์ผุดผ่องสูง เพราะสิ่งสกปรกเพียงเล็กน้อยซึ่งอาจจะน้อยกว่า 1% ก็อาจมีอิทธิพลต่อโครงสร้างซึ่งเชื่อมโยงไปถึงคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ด้วย การผลิตเซรามิกส์กึ่งตัวนำ (Semiconducting ceramics) สิ่งสกปรกจะต้องมีน้อยกว่า 1 ใน 10 – 8 กล่าวโดยทั่วไปสิ่งสกปรกไม่เป็นที่ปรารถนาในทุกขั้นตอนของการผลิต             การควบคุมขนาดและรูปร่างของวัตถุดิบ ก็มีความสำคัญไม่น้อยกว่า การควบคุมความบริสุทธิ์ของวัตถุดิบ เพราะมันจะมีผลต่อการขึ้นรูป การเกิดผลสะท้อนระหว่างกันของวัตถุดิบต่างๆ ในขณะที่เผาหรือระหว่างการทำการสังเคราะห์สารต่างๆ

 

 ประเภทของ เซรามิกส์


เราสามารถแยกประเภทผลิตภัณฑ์เซรามิกตามคุณภาพเนื้อของผลิตภัณฑ์ ได้ดังนี้
1. พอร์ซเลน (Porcelain)เป็นเซรามิกที่มีเนื้อสีขาว เคลือบผิวเป็นมัน โปร่งแสงมีความหนักแน่นเหมือนแก้วไม่ดูดน้ำ เคาะมีเสียงดังกังวานองค์ประกอบของเนื้อดินที่ใช้คือ ดินขาว ดินเหนียว หรือบอลเคลย์ หินไชน่าสโตน แร่ฟันม้าและแร่ควอรตซ์ ผลิตภัณฑ์พอร์ซเลนใช้ในงาน ได้หลายหลากทั้งในชีวิตประจำวันและงานอื่นๆ
ดินพอร์ชเลนมี 3 แนว ทั้งนี้
1.1 ดินพอร์ซเลนดาษ Common Porcelain Body ใช้สำหรับงานหล่อ ที่มีอัตราการหล่อแบบที่ดี และย่างแบบรีดักชั่น แต่ไม่โปร่งแสง พอเหมาะสำหรับของซื้อของขายที่นำมาเขียนลายเบญจรงค์ หรือลายคราม

1.2 ดินอลูมิน่าพอร์ซเลน Alumina Porcelain Body ดินอลูมิน่าพอร์ซเลนเป็นดินที่ใช้กับงานอย่างเดียวที่ต้องการความแข็งกร้าวดื้อเช่นลูกถ้วยไฟฟ้า, ลูกบดและอิฐกรุ หรือสเปเซอร์ที่ต้องใช้แขวนสายไฟที่หนักเป็นตันได้โดยไม่เกิดความเสื่อมเสีย ดินในกลุ่มนี้จะมีสมบัติผิดแผกแตกต่างกันไป

1.3 ดินพอร์ซเลนเนื้อขาว Soft Porcelain Body ดินพอร์ซเลนเนื้อขาวจะแตกต่างกันในเรื่องของสีหลังเผา, ความโปร่งแสง, ความเหนียวของดินเพื่อให้เหมาะสมกับการเลือกใช้งาน มักใช้ทำ โคมไฟประดับ งานปั้น เช่นตุ๊กตาอ่าตกแต่ง จานชาม


2. โบนไชน่า (Bone China)เป็นเครื่องปั้นดินเผาชั้นดีที่สุดมีค่าแพงสุดมีความขาวและเคลือบเป็นมันวาวมาก เนื้อละเอียด บางเบา และโปร่งใสมากมีความแข็งแกร่งดีมาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ได้แก่ ถ้วย ชาม เครื่องประดับเป็นต้น โดยทั่วไปโบนไชนามีส่วนผสมหลักคือ เถ้ากระดูกประมาณร้อยละ 50 โดยน้ำหนัก และมีดินขาวเคโอลิน (kaolin) กับไชนาสโตน (china stone) อีกประมาณร้อยละ 25 (ในสหรัฐอเมริกาผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ชื่อโบนไชนาได้ต้องมีเถ้ากระดูกเป็นองค์ประกอบอย่างน้อยร้อยละ 25) ซึ่งปริมาณเถ้ากระดูกเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้โบนไชนามีเนื้อละเอียดสีขาว มีลักษณะโปร่งแสง และมีความแข็งมาก เถ้ากระดูกมีองค์ประกอบหลักคือ แคลเซียมฟอสเฟต (calcium phosphate, Ca3(PO4)2) ได้จากการนำกระดูกสัตว์ต่างๆ เช่น กระดูกวัว ควาย ม้า มากำจัดเศษเนื้อ เอ็นที่ติดอยู่กับกระดูกออก และนำไปเผาที่อุณหภูมิสูงประมาณ 1,000 - 1,100 องศาเซลเซียส เมื่อเถ้ากระดูกเย็นตัวลงจึงนำมาบดให้เป็น

เนื้อโบนไชน่ามักจะโปร่งแสง

3. เอิร์ธเธินแวร์ (Earthenware)เป็นผลิตภัณฑ์เซรามิคเคลือบผิวทึบแสง มีความพรุนสามารถดูดซึมน้ำได้เนื้อละเอียดสีไม่ขาวมาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ ได้แก่ หม้อดินเผา คนโท กระถางต้นไม้กระเบื้องมุงหลังคา
3.1 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟสูง Earthenware Body เป็นดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟสูงเนื้อหยาบที่ขึ้นรูปงานปั้นได้ดี ทำผลิตภัณฑ์ประเภทกระถางและกระเบื้องลอน เผาที่อุณหภูมิ 1200-1230 ํC ออกซิเดชั่น
3.2 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟต่ำหรือดินโดโลไมท์ Dolomite Earthenware Body เป็นดินโดโลไมท์ที่มีสีขาว น้ำหนักเบา นิยมทำของประดับตกแต่งหรือชุดห้องน้ำมากกว่า ทำผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร
3.3 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์เนื้อแดงหรือดินเทอราคอตต้า Terra Cotta Body ดินนี้ขึ้นรูปงานปั้นได้ดี และเผาได้ตั้งแต่ 1000-1230 C สีหลังเผาจะเป็นสีส้ม และเข้มตามอุณหภูมิที่เผาสูงขึ้น นิยมทำชุดอาหารและของตกแต่งบ้าน
4. สโตนแวร์ (Stoneware) เป็นกลุ่มดินผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายในการเลือกใช้ ทั้งดินงานปั้น, งานหล่อ, งานอัดปั๊ม เหมาะกับผลิตภัณฑ์สำหรับปรุงอาหาร Cookware ลักษณะเด่นของผลิตภัณฑ์สโตนแวร์มักจะชิ้นหนาและหนัก เน้นความแข็งแรงทนทาน
4.1 ดินสโตนแวร์เนื้อขาว White Stoneware Body เป็นดินสโตนแวร์เนื้อขาว เน้นที่จะใช้งานเคลือบใสตกแต่งด้วยสีใต้เคลือบ SAA ใช้ทั้งงานหล่อ, งานปั้นและงานอัด เป็นดินสำหรับการขึ้นรูปแบบ Isostatic press เหมาtสำหรับผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร

4.2 ดินสโตนแวร์ธรรมดา Common Stoneware Body เนื่องจากเป็นดินที่มีการสไลด์ตัวได้ดี เหมาะสกหรับงานปั้น งานขึ้นรูป ใช้ทำผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหารชิ้นใหญ่ๆ


4.3 ดินสโตนแวร์สำหรับงานหล่อชิ้นใหญ่ Stoneware Body for casting เหมาะสำหรับทำ ชุดห้องน้ำ สุขภัณฑ์ กระเบื้องลอน และกรงลูกแก้ว

4.4 ดินสโตนแวร์เนื้อแดง Red Stoneware Body เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับงานปั้น ที่มีสีหลังเผาแดงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เผาที่อุณหภูมิ 1220-1230 ํC จะให้ได้ผลิตภัณฑ์ชุดอาหารที่มีความโดดเด่น

4.5 ดินสโตนแวร์สำหรับงานปั้นชิ้นใหญ่ Stoneware Body for Hand throwing
5. เทอราคอตตา (Terra Cotta)เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีดินเหนียวผิวดินเผาแล้วมักมีสีแดง เนื้อไม่แกร่ง มีความพรุนตัวสูง มักไม่เคลือบผิวนิยมเคลือบด้วยสีต่างๆ ส่วนมากผลิตเป็นวัสดุก่อสร้าง กระเบื้องบุผนัง
6. แก้ว (Glass) เป็นเซรามิกที่โปร่งแสง บางชนิดขุ่น ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ได้แก่ หลอดไฟ แก้วน้ำขวด กระจก

7. วัสดุทนไฟ (Refractories) เป็นวัสดุประเภทอนินทรีย์พวกดิน หิน แร่ธาตุที่หลอมตัวได้ยากในอุณหภูมิสูง ต้องทนอุณหภูมิได้อย่างน้อย 1,600 องศาเซลเซียสตัวอย่างได้แก่ อิฐทนไฟ อิฐฉนวนทนไฟ
======================================================

 ประเภทของ เซรามิกส์
ประเภทของเซรามิก

เราสามารถจำแนกผลิตภัณฑ์เซรามิกตามคุณภาพเนื้อของผลิตภัณฑ์ ได้ดังนี้
1. พอร์ซเลน (Porcelain)เป็นเซรามิกที่มีเนื้อสีขาว เคลือบผิวเป็นมัน โปร่งแสงมีความแข็งแกร่งเหมือนแก้วไม่ดูดซึมน้ำ เคาะมีเสียงดังกังวานส่วนผสมของเนื้อดินที่ใช้คือ ดินขาว ดินเหนียว หรือบอลเคลย์ หินไชน่าสโตน แร่ฟันม้าและแร่ควอรตซ์ ผลิตภัณฑ์พอร์ซเลนใช้ในงาน ได้หลากหลายทั้งในชีวิตประจำวันและงานอื่นๆ
ดินพอร์ชเลนมี 3 แบบ ดังนี้
1.1 ดินพอร์ซเลนทั่วไป Common Porcelain Body ใช้สำหรับงานหล่อ ที่มีอัตราการหล่อแบบที่ดี และเผาแบบรีดักชั่น แต่ไม่โปร่งแสง เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่นำมาเขียนลายเบญจรงค์ หรือลายคราม

1.2 ดินอลูมิน่าพอร์ซเลน Alumina Porcelain Body ดินอลูมิน่าพอร์ซเลนเป็นดินที่ใช้กับงานเฉพาะที่ต้องการความแข็งแรงทนทานเช่นลูกถ้วยไฟฟ้า, ลูกบดและอิฐกรุ หรือสเปเซอร์ที่ต้องใช้แขวนสายไฟที่หนักเป็นตันได้โดยไม่เกิดความเสียหาย ดินในกลุ่มนี้จะมีสมบัติแตกต่างกันไป

1.3 ดินพอร์ซเลนเนื้อขาว Soft Porcelain Body ดินพอร์ซเลนเนื้อขาวจะแตกต่างกันในเรื่องของสีหลังเผา, ความโปร่งแสง, ความเหนียวของดินเพื่อให้เหมาะสมกับการเลือกใช้งาน มักใช้ทำ โคมไฟประดับ งานปั้น เช่นตุ๊กตาประดับตกแต่ง จานชาม


2. โบนไชน่า (Bone China)เป็นเครื่องปั้นดินเผาชั้นดีที่สุดมีราคาแพงสุดมีความขาวและเคลือบเป็นมันวาวมาก เนื้อละเอียด บางเบา และโปร่งแสงมากมีความแข็งแกร่งดีมาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ได้แก่ ถ้วย ชาม เครื่องประดับเป็นต้น โดยทั่วไปโบนไชนามีส่วนผสมหลักคือ เถ้ากระดูกประมาณร้อยละ 50 โดยน้ำหนัก และมีดินขาวเคโอลิน (kaolin) กับไชนาสโตน (china stone) อีกประมาณร้อยละ 25 (ในสหรัฐอเมริกาผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ชื่อโบนไชนาได้ต้องมีเถ้ากระดูกเป็นองค์ประกอบอย่างน้อยร้อยละ 25) ซึ่งปริมาณเถ้ากระดูกเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้โบนไชนามีเนื้อละเอียดสีขาว มีลักษณะโปร่งแสง และมีความแข็งมาก เถ้ากระดูกมีองค์ประกอบหลักคือ แคลเซียมฟอสเฟต (calcium phosphate, Ca3(PO4)2) ได้จากการนำกระดูกสัตว์ต่างๆ เช่น กระดูกวัว ควาย ม้า มากำจัดเศษเนื้อ เอ็นที่ติดอยู่กับกระดูกออก และนำไปเผาที่อุณหภูมิสูงประมาณ 1,000 - 1,100 องศาเซลเซียส เมื่อเถ้ากระดูกเย็นตัวลงจึงนำมาบดให้เป็น

เนื้อโบนไชน่ามักจะโปร่งแสง

3. เอิร์ธเธินแวร์ (Earthenware)เป็นผลิตภัณฑ์เซรามิกเคลือบผิวทึบแสง มีความพรุนสามารถดูดซึมน้ำได้เนื้อละเอียดสีไม่ขาวมาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ ได้แก่ หม้อดินเผา คนโท กระถางต้นไม้กระเบื้องมุงหลังคา
3.1 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟสูง Earthenware Body เป็นดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟสูงเนื้อหยาบที่ขึ้นรูปงานปั้นได้ดี ทำผลิตภัณฑ์ประเภทกระถางและกระเบื้องลอน เผาที่อุณหภูมิ 1200-1230 ํC ออกซิเดชั่น
3.2 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์ไฟต่ำหรือดินโดโลไมท์ Dolomite Earthenware Body เป็นดินโดโลไมท์ที่มีสีขาว น้ำหนักเบา นิยมทำของประดับตกแต่งหรือชุดห้องน้ำมากกว่า ทำผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร
3.3 ดินเอิร์ทเทิร์นแวร์เนื้อแดงหรือดินเทอราคอตต้า Terra Cotta Body ดินนี้ขึ้นรูปงานปั้นได้ดี และเผาได้ตั้งแต่ 1000-1230 C สีหลังเผาจะเป็นสีส้ม และเข้มตามอุณหภูมิที่เผาสูงขึ้น นิยมทำชุดอาหารและของตกแต่งบ้าน
4. สโตนแวร์ (Stoneware) เป็นกลุ่มดินผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายในการเลือกใช้ ทั้งดินงานปั้น, งานหล่อ, งานอัดปั๊ม เหมาะกับผลิตภัณฑ์สำหรับปรุงอาหาร Cookware ลักษณะเด่นของผลิตภัณฑ์สโตนแวร์มักจะชิ้นหนาและหนัก เน้นความแข็งแรงทนทาน
4.1 ดินสโตนแวร์เนื้อขาว White Stoneware Body เป็นดินสโตนแวร์เนื้อขาว เน้นที่จะใช้งานเคลือบใสตกแต่งด้วยสีใต้เคลือบ SAA ใช้ทั้งงานหล่อ, งานปั้นและงานอัด เป็นดินสำหรับการขึ้นรูปแบบ Isostatic press เหมาtสำหรับผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร

4.2 ดินสโตนแวร์ธรรมดา Common Stoneware Body เนื่องจากเป็นดินที่มีการสไลด์ตัวได้ดี เหมาะสกหรับงานปั้น งานขึ้นรูป ใช้ทำผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหารชิ้นใหญ่ๆ


4.3 ดินสโตนแวร์สำหรับงานหล่อชิ้นใหญ่ Stoneware Body for casting เหมาะสำหรับทำ ชุดห้องน้ำ สุขภัณฑ์ กระเบื้องลอน และกรงลูกแก้ว

4.4 ดินสโตนแวร์เนื้อแดง Red Stoneware Body เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับงานปั้น ที่มีสีหลังเผาแดงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เผาที่อุณหภูมิ 1220-1230 ํC จะให้ได้ผลิตภัณฑ์ชุดอาหารที่มีความโดดเด่น

4.5 ดินสโตนแวร์สำหรับงานปั้นชิ้นใหญ่ Stoneware Body for Hand throwing
5. เทอราคอตตา (Terra Cotta)เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีดินเหนียวผิวดินเผาแล้วมักมีสีแดง เนื้อไม่แกร่ง มีความพรุนตัวสูง มักไม่เคลือบผิวนิยมเคลือบด้วยสีต่างๆ ส่วนมากผลิตเป็นวัสดุก่อสร้าง กระเบื้องบุผนัง
6. แก้ว (Glass) เป็นเซรามิกที่โปร่งแสง บางชนิดขุ่น ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ได้แก่ หลอดไฟ แก้วน้ำขวด กระจก

7. วัสดุทนไฟ (Refractories) เป็นวัสดุประเภทอนินทรีย์พวกดิน หิน แร่ธาตุที่หลอมตัวได้ยากในอุณหภูมิสูง ต้องทนอุณหภูมิได้อย่างน้อย 1,600 องศาเซลเซียสตัวอย่างได้แก่ อิฐทนไฟ อิฐฉนวนทนไฟ
======================================================

 

http://upload.siamza.com/file_upload/modify/110815/2240860.jpg

 

http://upload.siamza.com/file_upload/modify/110815/2242143.png

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : แก้วเซรามิค

ที่มา : http://www.kaewceramic.com

วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Ceramic Processing

Ceramic History

แก้วสกรีนโลโก้ Credit : 89ceramic.com

นักโบราณคดีได้ค้นพบเซรามิกของมานพทำวันที่กลับไปอย่างน้อย 24,000 ปีก่อนคริสตกาล เซรามิกสเหล่านี้ถูกพบในสโลวาเกียและอยู่ในรูปแบบของสัตว์และมนุษย์ตุ๊กตา, แผ่นและลูก เซรามิกสเหล่านี้ที่ทำจากไขมันสัตว์และกระดูกผสมกับเถ้ากระดูกและวัสดุเหมือนดินที่ดี หลังจากที่ขึ้นรูปเซรามิกส์ถูกยิงที่อุณหภูมิระหว่าง 500-800 องศาเซลเซียสในโดมและเตาเผารูปเกือกม้าบางส่วนที่ขุดลงไปในดินที่มีผนังเหลือง ในขณะที่มันไม่ชัดเจนว่าเซรามิกเหล่านี้ถูกนำมาใช้ก็ไม่ได้คิดว่าจะได้รับประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง ใช้งานครั้งแรกของเรือเครื่องปั้นดินเผาทำงานคิดว่าจะเป็นใน 9,000 ปีก่อนคริสตกาล เรือเหล่านี้ถูกนำมาใช้ส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะถือและเก็บเมล็ดพืชและภัตอื่น ๆ

มันเป็นความตรึกที่ผลิตแก้วโบราณมีสายสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับการทำเครื่องปั้นดินเผาที่เจริญรุ่งเรืองในสังคมอียิปต์ประมาณ 8,000 ปีก่อนคริสตกาล ในขณะที่การยิงเครื่องปั้นดินเผาการปรากฏตัวของแคลเ​​ซียมออกไซด์ (CaO) ที่มีทรายรวมกับโซดาและร้อนของเตาเผาเครื่องปั้นดินเผาที่อาจมีผลในการเคลือบสีบนหม้อเซรามิก ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามันไม่ได้จนกว่า 1500 ปีก่อนคริสตกาลกระจกที่ถูกผลิตเป็นอิสระจากเซรามิกและแฟชั่นเข้ารายการแยกต่างหาก

ตั้งแต่อดีตกาลเหล่านี้เทคโนโลยีและการใช้งานของเซรามิกส (รวมถึงแก้ว) ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรามักจะใช้สำหรับการรับบทบาทที่สำคัญที่เซรามิกได้เล่นในความคืบหน้าของมนุษย์โลก ด้านล่างเป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของวิธีการเซรามิกที่มีความสำคัญต่อสังคม

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : แก้วสกรีนโลโก้

ที่มา : http://www.kaewceramic.com